Review : ตู้กันชื้น Andbon ปกป้องเลนส์ราคาแพงก่อนสายเกินไป เพราะหน้าฝนแล้ว ระวังราขึ้น
ช่วงนี้เป็นช่วงหน้าฝน ใครที่มีกล้องมีเลนส์ ต้องระมัดระวังเรื่องของความชื้นเป็นพิเศษ เพราะโอกาสเกิดราขึ้นบนเลนส์มีสูง ถามว่าทำไมต้องกังวลเรื่องรา เพราะเลนส์ราคาแพงของเรานั้น หากเกิดราขึ้นบนชิ้นเลนส์แล้ว จะทำให้เลนส์เกิดปัญหาถ่ายภาพแล้วแสงฟุ้ง แถมถ้านำไปล้างทำความสะอาด ก็ทำให้ผิวเลนส์ลดทอนคุณภาพลงไป และยังเสียค่าใช้จ่ายตามมาอีกด้วย อย่ากระนั้นเลย วันนี้น้าป๋วยเลยขอมาแนะนำวิธีป้องกันเชื้อราบนเลนส์ด้วยตู้กันชื้น Andbon
ต้องเกริ่นก่อนว่า ทำไมตู้กันชื้นถึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับช่างภาพ โดยเฉพาะผู้ที่มีเลนส์หลายๆตัว จากประสบการณ์ของน้าป๋วยเอง เคยคิดว่าตู้กันชื้นเป็นสิ่งไม่จำเป็น สิ้นเปลืองและน่าจะกินไฟด้วย เลยตัดสินใจผิดพลาดไม่ยอมลงทุนใช้ตู้กันชื้นเก็บอุปกรณ์ถ่ายภาพ ปรากฏว่าเลนส์ขึ้นราไปสองตัวพร้อมๆกัน เพราะประมาทวางเลนส์ทิ้งไว้แค่ไม่กี่วัน คิดว่าเราใช้งานบ่อยไม่น่ามีปัญหา กลับมาดูอีกที เห็นเป็นใยบางๆ..... ใช่แล้วครับราขึ้น แม้ไม่เยอะมากจนส่งผลต่อภาพที่ได้ แต่มันมีโอกาสเติบโต และส่งผลเสียระยะยาวแน่ๆ เนื่องจากเชื้อราสามารถกัดกินผิวเคลือบของเลนส์ได้ แถมยังส่งผลต่อราคาขายต่อด้วยแน่ๆ
หลังจากนั้นเป็นต้นมา น้าป๋วยเลยรู้ว่าตู้กันชื้นเป็นสิ่งจำเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงหน้าฝนที่สภาพความชื้นในอากาศสูง โอกาสเกิดราขึ้นได้ง่าย และราคาของตู้กันชื้นเมื่อเทียบกับมูลค่าเลนส์หรือราคาค่าล้างเลนส์แล้ว ถือว่าคุ้มค่ามาก เลยเป็นที่มาของรีวิวตู้กันชื้นที่ใช้อยู่กับ Andbon รุ่น AD-100s ขนาดความจุ 100 ลิตร
ตู้กันชื้น Andbon มีอยู่หลายขนาดให้เลือกใช้ โดยมีทั้งขนาด 30 , 50 และ 100 ลิตร ใครที่ของน้อยก็เลือกใช้แค่ขนาด 30 ลิตร แต่น้าป๋วยมีกล้อง มีเลนส์เยอะเลยขอเลือกขนาด 100 ลิตรมาใช้งาน เพราะใส่ของได้เยอะ จะได้ไม่ต้องจัดเรียงแออัดมากนัก สำหรับตู้กันชื้น Andbon นั้น จุดเด่นเลยคือตัวตู้ทำจากวัสดุอลูมิเนียมอัลลอย ซึ่งมีความแข็งแรงทนทาน ทำความสะอาดได้ง่าย ตัวตู้มาพร้อมกับกระจกนิรภัยบานประตู หนา 4 มิลลิเมตร ซึ่งข้อดีของกระจกดังกล่าวคือมีความแข็งแรงทนทานกว่ากระจกปกติ แต่ถ้าหากเกิดแตกขึ้นมาจริงๆก็จะมีลักษณะเป็นเม็ดไม่เป็นปากฉลามที่มีความอันตรายนั่นเอง
ตัวบานประตูมีกุญแจล็อค ส่วนขอบประตูก็มียางคล้ายๆกับตู้เย็นเพื่อช่วยดูดติดกับตัวตู้ไม่ให้อากาศภายนอกเข้าไป ปิดตู้ได้สนิท สามารถใช้งานได้ทั้งในห้องแอร์หรือห้องอุณหภูมิปกติได้อย่างไม่มีปัญหา สำหรับตัวตู้กันชื้น Andbon มาพร้อมกับฟังก์ชั่นการทำงานหลายอย่าง เดี๋ยวมาไล่เรียงดูกันเลย
อย่างแรกเลยก็คือระบบควบคุมความชื้น สำหรับตู้กันชื้น Andbon ใช้ระบบการทำงานด้วยตัวควบคุมค่าความชื้นแบบดิจิตอล นั่นหมายความว่าเราแค่ตั้งค่าความชื้นสัมพัทธ์ที่ต้องการไว้ครั้งเดียวเลย ไม่ต้องมานั่งปรับอีกตอนหลัง ตัตู้จะควบคุมค่าความชิ้นให้เองโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องซื้อสารกันชื้นเพิ่ม สะดวกและทำงานได้อย่างเที่ยงตรง เพราะน้าป๋วยเคยมีตู้กันชื้นแบบเก่าที่ไม่ใช่แบบดิจิตอล ต้องมานั่งปรับค่าความชื้นเอง เวลาหน้าฝนก็ต้องปรับใหม่ทีนึง หน้าหนาวก็ต้องมานั่งปรับอีก เพราะค่าความชื้นภายนอกตู้เปลี่ยนแปลง ส่งผลถึงการทำงานภายในตู้กันชื้นแบบเก่า ยุ่งยากและไม่ค่อยสะดวกสักเท่าไร แต่ตู้กันชื้น Andbon ดีกว่าเยอะเลย แถมมีหน้าจอแสดงผลแบบตัวเลขบอกอุณหภูมิและค่าความชื้นสัมพัทธ์ให้เห็นด้วย แถมแสดงผลแบบ Real Time คือ เมื่อเปิดตู้ออก ค่าความชื้นก็สูงขึ้นทันทีเลย นับว่าบอกค่าได้เร็วมากๆ
อย่างที่สองก็คือระบบการทำงานของตู้กันชื้น Andbon ไม่มีเสียงรบกวนเลย เนื่องจากไม่มีการใช้พัดลมในการทำงาน จุดนี้ถ้าใครเลือกซื้อตู้กันชื้นก็ลองๆสังเกตไว้ เพราะบางยี่ห้อใช้เป็นแบบพัดลม จะส่งเสียงรบกวน และตู้กันชื้น Andbon ยังทำงานได้รวดเร็วมาก สามารถลดค่าความชื้นได้รวดเร็วภายในเวลาประมาณ 1 ชั่วโมงก็เห็นตัวเลขลดลงใกล้กับค่าที่ตั้งไว้แล้ว จากนั้นก็ไม่ต้องไปยุ่งอะไรอีก ปล่อยให้มันทำงานของมันไป
ส่วนเรื่องการกินไฟ ตู้กันชื้น Andbon มีระบบการตัดการทำงานเมื่อค่าความชื้นถึงจุดที่ตั้งค่าไว้ ไม่ได้ทำงานตลอดเวลา จึงประหยัดไฟมากๆ ตามสเป็คของทางผู้ผลิตระบุว่ากินไฟน้อยกว่า 8W ซึ่งถือว่าน้อยมากๆ (ยกตัวอย่างพัดลม กินไฟประมาณ 50W) ดังนั้นเรื่องค่าไฟถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ โดยในกล่องก็จะมีอแดปเตอร์มาให้ใช้งานตามภาพที่เห็นเลย และตัวตู้กันชื้น Andbon ก็มีความปลอดภัย เนื่องจากใช้ไฟกระแสตรง
ภายในตู้กันชื้น Andbon รุ่น AD-100s ที่นำมารีวิวนั้นมีพื้นที่ภายในตู้เท่ากับ 440 x 450 x 835 มิลลิเมตร พร้อมกับมีชั้นวางให้ 4 ชั้นเป็นพลาสติกคุณภาพสูง มีความเหนียวยืดหยุ่นรองรับน้ำหนักได้ดี มีฟองน้ำมาให้ สามารถปรับชั้นความสูงได้ตามต้องการ แถมข้างในตู้มีไฟ LED เปิด-ปิดได้ อันนี้ชอบมาก เพราะช่วยให้เห็นของภายในตู้ได้ชัดเจน จะหยิบจับอะไรก็สะดวก แถมด้วยขนาดตู้ที่ลึกพอจะใส่เลนส์ใหญ่ๆอย่างเช่น 70-200mm F2.8 ก็ได้ หรือจะใส่กล้องติดเลนส์ทั่วๆไปก็ไม่มีปัญหา ใครที่อยากได้ตู้กันชื้นที่เก็บของได้เยอะๆแนะนำขนาดใหญ่ไปเลย ไม่ต้องมานั่งปวดหัวกับการจัดวาง
จากการใช้งานตู้กันชื้น Andbon พบว่าทำงานได้ดีมาก รักษาความชิ้นได้ดี และยังมีพื้นที่ในการเก็บกล้องและเลนส์ได้หลายตัวมาก ของน้าป๋วยเอง เก็บกล้องสองตัว เลนส์อีก 6 ตัว นอกนั้นก็เก็บของกระจุกกระจิกทั้งหลาย ทั้งฟิลเตอร์ แบตเตอรี่ ฯลฯ ช่วยให้เราหาของง่าย เพราะเก็บไว้ในตู้เดียว ไฟส่องสว่างในตู้ก็สว่างดี ที่สำคัญคือไม่ต้องมานั่งปรับตั้งค่าความชื้น ตั้งไว้ทีเดียวจบ โดยค่าความชื้นที่แนะนำสำหรับกล้องและเลนส์จะอยู่ที่ประมาณ 40-50% หรือถ้าใครจะซื้อไว้สำหรับเก็บของอื่นๆที่ต้องการควบคุมเรื่องของค่าความชื้นก็ใช้ได้เช่นเดียวกัน เช่น เก็บพวกสแตมป์เก่า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ยา ฯลฯ ก็สามารถใช้งานได้โดยปรับค่าความชื้นให้เหมาะสมกับของที่จะเก็บในตู้นั่นเอง
ใครที่ยังคิดว่าเรื่องเชื้อราเป็นเรื่องไกลตัว อย่าได้ประมาทเลย เพราะราคาเลนส์หลักหมื่นของเรานั้น ควรได้รับการปกป้องที่ดี จะได้ใช้งานได้นานๆ ยิ่งบ้านเราที่อากาศแบบร้อนชื้นนี่แหละ เชื้อราเจริญเติบโตได้ง่ายมาก ใครที่มีกล้องมีเลนส์หลายตัว หรือไม่ค่อยได้หยิบมาใช้บ่อยๆยิ่งต้องมีตู้กันชื้นไว้ใช้งาน แนะนำว่าเวลาเก็บของใส่ตู้อย่าใส่ไปทั้งกระเป๋ากล้องนะ เพราะตัวกระเป๋ากล้องเองก็มีความชื้นสูงอยู่เหมือนกัน ให้แยกเก็บดีกว่า ส่วนเรื่องระบบควบคุมความชื้นก็ให้เป็นหน้าที่ของตู้กันชื้น Andbon ไป
สำหรับสนนราคาของตู้กันชื้น Andbon ก็ตามขนาดเลยคือ
Andbon AD-30S ขนาด 30 ลิตร ราคา 3,199 บาท
Andbon AD-50S ขนาด 50 ลิตร ราคา 5,190 บาท
Andbon AD-100S ขนาด 100 ลิตร ราคา 7,590 บาท
หาซื้อได้ที่ Big Camera และ iLoveToGo หรือติดต่อข้อมูลเพิ่มเติมได้ทางเพจ ตู้กันชื้น andbon