กลับมาพบกันอีกเช่นเคยครับกับ ทีมงาน TechXcite วันนี้ทีมงานได้นำ smart watch ตัวใหม่จากค่าย Huawei มาให้ได้ชมกันกับ Huawei Band 6 ที่ขอบอกเลยครับว่าตัวนี้น้ำหนักเบากำลังดีและมีหน้าจอที่กว้างใช้ได้ การใช้งานจะเป็นยังไงนั้นขอเชิญชมให้สมอรรถรสกันเลยดีกว่า
ข้อมูลของ Huawei Band 6
ขนาด |
43 มม. X 25.4มม. X 10.99มม. (ไม่รวมสายนาฬิกา) |
ช่วงครอบคลุมข้อมูล |
13 – 21 ซม. |
น้ำหนัก |
ประมาณ 18 กรัม (ไม่รวมสายนาฬิกา) |
สี |
Graphite Black, Forest Green, และ Sakura Pink |
กรอบนาฬิกา |
วัสดุ: โพลิเมอร์อย่างดี ขนาด 43 มม. X 25.4 มม. X 10.99 มม. |
สายนาฬิกา |
วัสดุ: สายยางซิลิโคน ความกว้าง: 16 มม. (เมื่อปล่อยสายให้คลายตัวที่สุด) ความยาว: สายแบบยาวประมาณ 124 มม.สายแบบสั้นประมาณ 82 มม. |
หน้าจอ |
หน้าจอแบบ AMOLED color ขนาด 1.47 นิ้วความละเอียด:194 X 368 พิกเซล |
GPS |
ไม่รองรับ |
การเชื่อมต่อ |
Bluetooth: BT5.0, BLE |
เซ็นเซอร์ |
6-axis IMU sensor (Accelerometer sensor, Gyroscope sensor) Optical heart rate sensor |
แบตเตอรี่ |
ความจุ: 180 mAhใช้งานได้นานต่อเนื่องสูงสุด 14 วัน และรองรับระบบชาร์จไว |
ปุ่ม |
ระบบสัมผัสหน้าจอ และปุ่มกดด้านข้าง |
ระบบปฏิบัติการ |
Android 6.0 หรือสูงกว่า / iOS 9.0 หรือสูงกว่า |
เทคโนโลยีชาร์จ |
Magnetic Charging |
มาตรฐานการกันน้ำ |
5ATM water-resistant |
การเล่นเพลง |
รองรับ |
อุปกรณ์ภายในกล่อง |
1. นาฬิกา 2. สายชาร์จ 5. คู่มือการใช้งาน 6. ข้อมูลความปลอดภัย 7. ใบรับประกันสินค้า |
ดีไซน์
เจ้า Huawei Band 6 ด้านหน้ามีหน้าตาที่ดูเข้ากับยุคสมัยด้วยหน้าปัดแบบ AMOLED FullView display ขนาด 1.47 นิ้ว ให้รายละเอียดที่คมชมไม่ขัดตา ตัวสายเป็นซิลิโครนนุ่มไม่แข็งกระด้าง ขนาด 16 มม. น้ำหนัก 18 กรัม
ด้านข้างมีปุ่มเปิดเปิดและเรียกใช้งานเมนูเพิ่มเติม
ด้านหลังมีเซ็นเซอร์ที่ตรวจจับชีพจรและตัวแม่เหล็กสำหรับการชาร์จ
การใช้งาน
โหมดการใช้งานต้องบอกก่อนว่า Huawei Band 6 ให้รูปแบบการใช้งานมาอย่างจุใจและยังสามารถบันทึกการออกกำลังกายได้มากถึง 96 แบบ รวมถึงสามารถวัดค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด หรือค่า SpO2ระหว่างออกกำลังกายได้ ทั้งยังวัดอัตราการเต้นของหัวใจขณะออกกำลังกายได้อีกด้วย โดยที่การเข้าใช้งานแต่โหมดก็ไม่ยาก มีท้งหมดสามมี Graphite Black, Forest Green, Sakura Pink และต้องบอกก่อนเลยว่าตัวนี้ไม่มี GPS นะ
การเข้าเมนูหลักใช้เพียงการปัดหน้าจอไปด้านซ้ายหรือด้านขวาก็จะสามารถเจอหมวดหมู่ต่างๆไม่จะเป็นวัดชีพจร ดูความเครียด เช็คสภาพอากาศ
การปัดหน้าจอขึ้นก็จะเป็นการดูข้อความแจ้งเตือนต่างๆไม่ว่าจะเป็น Facebook email IG ก็จะสามารถดูได้แต่แค่บางส่วนข้อความเท่านั้นร่วมถึงไม่สามารถโต้ตอบได้
การปัดลงก็เป็นในเรื่องของการตั้งค่าต่างๆของตัวเครื่องไม่ว่าจะเป็นโหมดสำหรับการนอน การปรับเรื่องสั่นของตัว Huawei Band 6
โหมดอื่นๆสามารถเข้าได้โดยการกดปุ่มข้างๆตัวเรือนจะสามารถเข้าถึงในส่วนของการตั้งค่าของการออกกำลังกาย วัดค่า SpO2 ก็อยู่ในนี้
การเชื่อมต่อทำได้โดยลง application Huawei Health ที่มีทั้ง Android และ iOS รองรับ Android 6.0 หรือสูงกว่า / iOS 9.0 หรือสูงกว่าโดยต้องสมัคร Huawei ID ด้วย
ฟีเจอร์ตรวจวัดสุขภาพ
- ตรวจจับการนอนหลับ
- ตรวจจับความเครียด
- วัดอัตราเต้นหัวใจ
- วัดค่า SpO2 ระดับอ๊อกซิเจนในเลือด
ฟีเจอร์ในโหมดออกกำลังกายมีให้เลือกถึง 96 โหมดแต่ยังมีรูปแบบการเก็บเหรียญตราเมื่อชนะภารกิจแต่ละแบบมาให้ด้วย
หน้าจอเลือกแบบได้หลากลายโดยเฉพาะตัว Huawei Band 6 จะมีลายพิเศษเฉพาะด้วยสามารถกดโหลดเพิ่มได้ใน Huawei Health และปรับแต่งที่ตัวเรือนได้ด้วยการกดหน้าจอค้างก็จะมีให้เลื่อนเพื่อเลือกก็จะสามารถใช้งานแบบหน้าปัดนั้นได้
ฟังก์ชั่นลับเฉพาะกับมือถือของ Huawei คือรีโมทกล้องที่จะมีมาให้
แบตเตอรี่ขนาดความจุ 180 mAH HUAWEI Band 6 จึงสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 14 วัน
ราคาเปิดตัวที่ 1,899 บาท
ใครสนใจช่วงนี้ไปตำได้ที่นี้มีของแถมเยอะอยู่ในช่วงนี้
สี Sakura Pink >>>>https://u.jd.co.th/tRtiuUm
สี Forest Green >>>>https://u.jd.co.th/tJtIUop
สี Graphite Black >>>>https://u.jd.co.th/tOti6RD
สรุป
Huawei Band 6 เหมาะกับคนที่เริ่มต้นออกกำลังกายและต้องการบันทึกค่าต่างๆรวมถึงคนที่สนใจด้านสุขภาพและเหมาะเป็นตัวเริ่มต้นสำหรับคนที่อยากทดลองใช้งานแต่การใช้งานจะยังไม่ครอบคลุมทั้งหมดก็ถือว่าคุณภาพตามราคา ส่วนอีกหนึ่งจุดสังเกตคือไม่มี GPS ทำให้สายวิ่งสายปั่นอาจจะไม่ชอบเพราะแทรกกิ้งเส้นทางการวิ่งไม่ได้ แต่เมื่อเทียบกับราคาแล้วมีเซ็นเซอร์วัด SPO2 มาให้ด้วยก็จัดว่าคุ้มค่าแล้วล่ะ