ดีไซน์
สวัสดีเพื่อนๆ ทุกคนค่ะ กู๊ดดรีม TechXcite มาเอาใจแฟน vivo ด้วยรีวิวอีกหนึ่งมือถือที่น่าสนใจสำหรับสายคอนเทนต์อย่าง vivo V23e 5G มาพร้อมจุดเด่นกล้องหน้า 44MP คมชัดทุกโมเม้น พร้อมชาร์จไว ถึง 44W แล้วยังรองรับ 5G อีกด้วย การใช้งานจริงจะเป็นอย่างไร มีจุดเด่นและจุดสังเกตด้านไหนบ้าง คุ้มค่าแค่ไหนไปรีวิวให้ทุกคนได้อ่านกันแล้ว
จุดเด่น
- ดีไซน์สวยบางเฉียบ
- รองรับ 5G
- กล้องหลังความละเอียดสูง 50MP
- กล้องหน้า 44MP
- รองรับความเร็วในการชาร์จ 44W
- เทคโนโลยีกันสั่น Ultra Stable Video และ EIS
จุดสังเกต
- ไม่มีช่องเสียบหูฟัง 3.5
อุปกรณ์ที่ให้มาในกล่อง
- vivo V23e 5G
- เคสใส
- สายชาร์จแบบ USB Type C
- อะแดปเตอร์ชาร์จ
- เข็มจิ้มถาดซิม
- คู่มือการใช้งาน
- สายแปลง USB-C to 3.5
- หูฟัง 3.5
ในกล่องให้อุปกรณ์มาครบครันเกินคาดมากๆ มีทุกสิ่งที่ต้องการ แม้กระทั่งหูฟังที่หลายรุ่นตัดทิ้งออกไปจากกล่องแล้วแต่รุ่นนี้ก็ยังคงแถมมาให้ และยังให้มาพร้อมกับสายแปลง USB-C to 3.5 อีกด้วย พร้อมใช้กว่านี้ไม่มีอีกแล้ว
ดีไซน์
สำหรับฝาหลังของ vivo V23e 5G ใช้วัสดุเป็นพื้นผิวกระจก Satin AG Glass ให้สัมผัสที่จับแล้วนุ่มมือพื้นผิวเป็นแบบด้านจับติดมือไม่ลื่นหลุดจากมือได้ง่าย และยังสามารถทำความสะอาดเช็ดรอยนิ้วมือที่ติดกับฝาหลังได้อย่างง่ายดายโดยที่ไม่ทิ้งร่องรอยคราบมันใดๆ สามารถป้องกันรอยขีดข่วนได้ประมาณ 1 แต่ก็แนะนำว่าให้ใส่เคสนิรภัยไว้ก็จะช่วยป้องกันตัวเครื่องหากเกิดอุบัติเหตุเครื่องหล่นจะได้ไม่เกิดความเสียหาย ซึ่งในกล่องก็มีแถมเคสใสไว้ให้ด้วย
จะมีทั้งหมด 2 สี ให้เลือกมีสี Moonlight shadow เป็นเทคโนโลยีการเคลือบเม็ดสีด้วยฟิล์มเซรามิกที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ให้สีดำเท่ล้ำ คลาสสิก และ Sunshine Coast ซึ่งเป็นฝาหลังที่เราได้มารีวิวจะเป็นการเล่นสีสะท้อนแสงวิบวับหลากหลายสีในแต่ละมุมของการพลิกตัวเครื่อง เห็นเป็นสีฟ้าสีน้ำเงิน เขียว ชมพู ส้ม ซึ่งเขาว่ามันเป็นการจำลองสีสันของทะเลในช่วงฤดูร้อนที่จะมีความหลากหลายของสี ออกแบบมาได้สวยงามน่าใช้ จับถือแล้วโดดเด่นมีเสน่ห์สุดๆ
กล้องหลังให้มาทั้งหมด 3 ตัวโมดูลนูนขึ้นมาจากฝาหลังเล็กน้อยเป็นดีไซน์คลาสสิคที่เป็นเอกลักษณ์สไตล์ V Series มองผิวเผินก็ต้องบอกว่ามีดีไซน์คล้ายคลึงกับรุ่น vivo V21 5G Series ค่อนข้างมากทีเดียว เพียงแต่มีการเล่นสีและการจัดวางโมดูลกล้องที่แตกต่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ปุ่ม power อยู่บริเวณขอบขวาของตัวเครื่อง กับปุ่มวอลลุ่มเพิ่ม-ลดเสียง
ด้านล่างเป็นถาดซิมที่รองรับได้ 2 ซิมการ์ด ถัดมาเป็นช่องชาร์จ USB-C และให้ลำโพงมา 1 ฝั่ง น่าเสียดายตรงที่ไม่มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มาให้ แต่เราก็สามารถใช้สายแปลงเพื่อเสียบใช้งานเข้ากับหูฟังได้ปกติ ในกล่องมีแถมสายแปลงหูฟัง 3.5 มาให้อีกด้วย
ที่นี้มาดูส่วนของหน้าจอกันบ้างให้มาขนาด 6.44 นิ้ว ความละเอียด 2400 × 1080 (FHD+) เป็น 2 รูปแบบ AMOLED ให้การแสดงผลทั้งความคมชัดและสีสันจัดจ้านสมจริงใช้งานได้เพลินตา มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่ใต้หน้าจอ ซึ่งให้ความแม่นยำสูงแต่สัมผัสเข้าถึงตัวเครื่องได้อย่างรวดเร็ว
ส่วนกล้องหน้าแป้นติ่งหยดน้ำเล็กๆอยู่บริเวณตรงกลางหน้าจอเป็นตำแหน่งที่ไม่ได้เกะกะสายตาและไม่ได้เป็นปัญหาต่อการใช้งานใดๆ
นอกจากนี้ความโดดเด่นในเรื่องของดีไซน์ก็คือตัวเครื่องบางเบาด้วยความหนาเพียง 7.36 มม. น้ำหนัก 172 กรัม ง่ายต่อการพกพาติดตัวไปได้ทุกที่ทุกเวลา ใส่กระเป๋าเสื้อกระเป๋ากางเกงหรือกระเป๋าคลัชของผู้หญิงก็ชิลๆ เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ออกแบบลวดลายและดีไซน์ฝาหลังออกมาได้สวยงามให้สัมผัสการจับถือที่ดี หน้าจอสวยคมชัดเหมาะสำหรับการดูหนังฟังเพลงรับชม Content ต่างๆได้อย่างดีเลย
สเปคการใช้งาน
- หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว ความละเอียด 2400 × 1080 (FHD+) AMOLED
- รีเฟรชเรท 90Hz
- รองรับการแสดงผล HDR10+
- RAM 8GB + 4GB Extended RAM
- ROM 128GB
- CPU MediaTek Dimensity 810
- ระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 12
- รองรับ 5G
- แบตเตอรี่ 4,050 mAh
- รองรับความเร็วในการชาร์จ 44W FlashCharge
- รองรับการสแกนลายนิ้วมือ
- รองรับการสแกนใบหน้า
- กล้องหลัง AI 3 ตัว
- 50MP AF
- 8MP FF (Wide-Angle)
- 2MP(Macro)
- กล้องหน้า 44MP AF
- น้ำหนัก 172 กรัม
สำหรับตัวชิปเซ็ต Dimensity 810 ใช้เทคโนโลยี 6nm ทำ ให้ตัวชิปเซ็ตมีความเสถียรมากขึ้น และการจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รองรับเครือข่าย 5G แบบ dual mode SA&NSA รองรับ 5G+5G dual SIM standby ในขณะเดียวกัน สามารถสลับใช้งานเครือข่ายได้อย่างราบรื่น ด้วยเสารับสัญญาณรอบทิศทางแบบ 360 องศา
ส่วน RAM 8GB มาพร้อม Extended RAM 2.0 เพื่อคอยซัปพอร์ตหน่วยความจำ RAM ตัวหลักเพื่อการใช้งานที่ไหลลื่น โดยจะดึงพื้นที่ของหน่วยความจำภายใน ROM 4GB และเพิ่มพื้นที่ RAM หลักให้มากขึ้น ซึ่งในประโยชน์ของมันก็คือจะสามารถสลับการใช้งานระหว่างแอปพลิเคชั่นได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
ในเรื่องความปลอดภัยรองรับทั้งการสแกนลายนิ้วมือและใบหน้า โดยการสแกนลายนิ้วมือจะเป็นการแตะที่บริเวณเซ็นเซอร์ใต้หน้าจอ ทำได้อย่างแม่นยำและรวดเร็วทั้งใบหน้าและลายนิ้วมือ
การเล่นเกมส์และการดูหนังฟังเพลง
ในเรื่องของการเล่นเกมเอาอยู่มากน้อยแค่ไหนก็ได้ไปทดสอบเล่นกับเกมที่กราฟิกจัดจ้านสุดๆ 2 เกมด้วยกันคือ RoV และ Call of Duty เริ่มต้นกันที่ RoV เกมนี้สามารถปรับตั้งค่าภาพ HD ได้ในระดับสูงมาก พาร์ติเคิลสูงมาก ในขณะที่การแสดงผลก็ได้ถึงระดับสูงด้วยกัน แต่ไม่สามารถเปิดโหมดเฟรมเรทสูงได้จะล็อคไว้อยู่ที่ 30 fps ในเรื่องของภาพคมชัด ภาพสวย กราฟิกจัดเต็ม เล่นไปไม่ค่อยเจอปัญหาสะดุดหรือกระตุกเกิดขึ้น สามารถเล่นได้ลื่นไหลทีเดียวกับเกมนี้
Call of Duty
มาต่อกันที่เกม Call of Duty เกมนี้การตั้งค่าสามารถปรับคุณภาพกราฟิกอยู่ได้ระดับ medium เฟรมเรตได้ถึงระดับสูง สำหรับเกมนี้สามารถเล่นได้อย่างลื่นไหลไม่เจอจังหวะกระตุกสะดุดหรือว่าหน่วงเลยแม้แต่นิดเดียว ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งหมอบ หรือซูมยิงก็ลื่นไหลไม่มีกระตุก สำหรับเกมนี้ก็เล่นได้ดีถึงดีมากๆเลยล่ะ
ส่วนเรื่องความร้อนเล่นทั้งสองเกมใช้ระยะเวลาไปประมาณ 1 ชั่วโมง เรื่องความร้อนของตัวเครื่องก็มีบ้างแต่ไม่ได้ร้อนจัดเป็นแค่เพียงอุ่นๆ ที่ฝาหลังของตัวเครื่องเท่านั้น ถือว่ามีการจัดการความร้อนของตัวเครื่องได้ดีทีเดียว
การดูหนังฟังเพลง
ด้วยความที่เป็นหน้าจอ AMOLED ความละเอียดระดับ FHD+ อย่างที่บอกไปในช่วงแรกว่าเหมาะสำหรับการดูหนังฟังเพลงดู YouTube ต่างๆ มากทีเดียว ให้ภาพที่คมชัดสีสันสดใสสมจริงดูหนังได้อย่างเต็มอิ่ม ส่วนระบบเสียงเป็นลำโพงเดี่ยว 1 ตัวให้คุณภาพเสียงประมาณนึงแต่อาจจะไม่ได้มีมิติเสียงมากมายอะไรนัก เรื่องระบบเสียงให้คุณภาพระดับกลางๆ
กล้อง
- Main Camera 50MP AF
- Wide-Angle 8MP FF
- Macro 2MP
สำหรับกล้องหลักความละเอียด 50MP สามารถเปิดใช้โหมดความละเอียดสูงได้ที่เพิ่มเติม จะช่วยเพิ่มรายละเอียดและความคมชัดของภาพให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น จากภาพตัวอย่างจะเห็นได้ว่าแม้จะมีการซูมหรือครอปภาพก็ยังคงเก็บรายละเอียดได้ดี โดยทำการซูมภาพในระดับ 100 เท่า สามารถเห็นตัวเลขที่อยู่ในระยะไกลได้อย่างชัดเจน
สำหรับการถ่ายภาพในโหมดปกติก็ยังคงเก็บรายละเอียดได้ดีอีกเช่นเดียวกัน มี HDR ที่ช่วยปรับภาพให้มีความสมดุลของแสงและสีสันที่เหมาะสม ถ่ายย้อนแสงก็มีการปรับ Balance ของภาพท้องฟ้าที่สว่างจัด และในจุดที่มืดให้มีความสมดุลกัน
นอกจากนี้ยังสามารถที่จะเลือกระยะของภาพได้ถึง 3 ระดับด้วยกันคือ Wide-Angle เลนส์ Normal และซูม 2X
Wide-Angle 8MP FF
ให้มุมมองภาพกว้างถึง 120 องศา เก็บรายละเอียดได้ครบทุกองค์ประกอบ โดยที่มุมมองภาพไม่มีผิดแปลกหรือบิดเบี้ยวไป จัดว่าเป็นเลนส์มุมกว้างที่ให้ภาพกว้างอย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับการถ่ายวิวทิวทัศน์ หรือจะถ่ายภาพ Portrait เพื่อสร้างมุมมองที่แปลกใหม่ก็ได้เช่นเดียวกัน
Macro 2MP
เพื่อการถ่ายภาพในมุมมองที่ไกลมากๆเพื่อสร้างภาพถ่ายที่แตกต่าง สามารถเคลื่อนตัวกล้องเข้าหาวัตถุได้มากสุดถึง 4 เซนติเมตรด้วยกัน ภาพที่ได้อาจจะไม่ได้คมชัดแบบว่าคมกริบแต่ภาพรวมก็ถือว่าสามารถใช้งานได้ดีกับความละเอียดเพียงแค่ 2 MP
Bokeh Flare Portrait
จุดเด่นในกล้องของรุ่นนี้เลยก็ว่าได้เพราะมันสามารถถ่ายภาพ Portrait ออกมาได้สวยเฉียบ ทำละลายฉากหลังได้ดี แถมมีโหมดบิวตี้เพื่อการปรับแต่งผิวให้ดูเรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติโดยไม่ต้องนำไปเข้า app แยกเพิ่มเติมใดๆ นอกจากนี้ยังมี Eye auto Focus เพื่อล็อกดวงตาให้อีกด้วย ทำให้ภาพที่ได้แทบไม่มีหลุดโฟกัสเลย และเรายังสามารถเลือกรูปแบบการเบลอ พร้อมทั้งเอฟเฟคแสง และฟิลเตอร์ต่างๆให้ได้ปรับแต่งอีกมากมาย เป็นรุ่นที่ถ่าย Portrait ได้สนุกมากๆ
ภาพถ่ายกลางคืน/พื้นที่แสงน้อย
ในการถ่ายภาพกลางคืนหรือพื้นที่แสงน้อยตัวเครื่องมี Night Mode เพื่อการปรับแต่งภาพทั้งความสว่างและคมชัด ซึ่งถึงแม้ว่าจะไม่ได้เปิด Night Mode ก็ยังคงเก็บรายละเอียดได้ดี ซึ่งเป็นจุดที่ vivo พัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ลดนอยซ์ของภาพได้ดี
ภาพเซลฟี่ ภาพด้านบนคือความสว่างของสถานที่จริง เมื่อถ่ายออกมาแทบไม่เชื่อเลยว่านี่คือภาพที่ถูกถ่ายอยู่ในตำแหน่งเดียวกัน แทบไม่ปรากฎนอยซ์ให้เห็นในกล้องหน้าเลย ซึ่งเป็นผลจาก AI Extreme Night ที่จะเป็นการประมวลภาพหลายเฟรมรวมกันเพื่อลดการเกิดนอยส์ และ AI จะช่วยแก้ไขลักษณะเฉพาะของใบหน้าในภาพบุคคลให้สว่างและคมชัดเหมือนถ่ายภาพในตอนกลางวัน
กล้องหน้า 44MP AF
มาดูเรื่องกล้องหน้ากันบ้างให้ความละเอียด Ultra HD 44MP มาพร้อมกับ Eye Autofocus Selfie ซึ่งจะคอยจดจำและติดตามดวงตา และการปรับโฟกัสแบบไดนามิก ถึงแม้จะมีการเคลื่อนไหวกล้องเปลี่ยนมุม จะถ่ายเซลฟี่ในระยะใกล้หรือไกลก็ยังคงคมชัดไม่มีเบลอและไม่มีหลุดโฟกัส สามารถถ่ายหน้าชัดหลังละลายได้เช่นเดียวกันความแม่นยำในการทำละลายฉากหลังถือว่าทำได้ค่อนข้างดีทีเดียว
ฟีเจอร์ Double Exposures
ฟีเจอร์โหมดรับแสง 2 เท่า ซึ่งจะเป็นการซ้อนทับภาพถ่าย 2 ใบ เพิ่มความสนุกสนานและความน่าสนใจของรูปถ่าย สามารถเลือกใช้งานฟีเจอร์นี้ได้ในเพิ่มเติม จะเป็นการนำรูปที่เราถ่ายเอง 2 ใบมาซ้อนกันก็ได้ หรือจะใช้ภาพตัวอย่างมาซ้อนทับกับภาพถ่ายของเราก็ทำได้อีกเช่นเดียวกัน
Dual View VDO
เป็นการถ่ายวีดีโอโดยที่กล้องหน้าและกล้องหลังทำงานพร้อมๆกัน เหมาะสำหรับคนที่เป็นสาย ครีเอเตอร์ถ่ายรีวิวถ่าย VLOG เพื่อให้เห็นภาพวิวทิวทัศน์จากกล้องหลังและสีหน้าของเราจากกล้องหน้า ไปพร้อมๆกัน
การถ่าย VDO
ในการถ่ายวีดีโอก็เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่น่าสนใจมากๆใน vivo V23e 5G มีเซ็นเซอร์เทคโนโลยีกันสั่น Ultra Stable Video และ EIS ที่ช่วยป้องกันภาพสั่นไหวทำให้ Video มัน Smooth และนิ่งมาก และทำให้การถ่ายวีดีโอมันง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น ใครๆก็สามารถสร้างผลงานประหนึ่งมืออาชีพได้ และช่วยกันสั่นได้กับทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังเลย
แบตเตอรี่และสรุปการใช้งาน
แบตเตอรี่ 4,050 mAh รองรับความเร็วในการชาร์จอยู่ที่ 44W FlashCharge ชาร์จ 30 นาทีได้แบตเตอรี่มากว่า 70% ซึ่งถึงแม้ว่าแบตเตอรี่จะไม่ถึง 5000 mAh แต่จากการใช้งานจริงกับการใช้งานทั่วไปแบตเตอรี่ก็สามารถอยู่ได้ยาวนานทั้งวัน แต่ถ้ามีการดูหนังฟังเพลงหรือเล่นเกมอย่างต่อเนื่องก็อาจจะอยู่ไม่ถึงต้องมีการชาร์จระหว่างวันบ้างเป็นเรื่องปกติ รองรับสายชาร์จแบบ USB-C
สรุปการใช้งาน
vivo V23e 5G เป็นมือถือที่มีจุดเด่นในหลายจุดด้วยกันอย่างแรกเลยก็คือประสิทธิภาพในความเป็นกล้องที่สามารถถ่ายรูปได้สวยมากๆ ไม่ว่าจะภาพวิวทิวทัศน์หรือการถ่ายภาพบุคคล ในคุณภาพระดับกล้องมืออาชีพ ซึ่งนอกจากการถ่ายภาพนิ่งแล้วในเรื่องของการถ่ายวีดีโอก็สามารถทำได้ดีอีกเช่นเดียวกัน มีลูกเล่นและฟีเจอร์มากมายให้ได้ใช้งาน เหมาะสำหรับสาย creator ที่ชื่นชอบการสร้าง Content หรือใครที่ชื่นชอบการถ่ายภาพรุ่นนี้ถือว่าตอบโจทย์มากๆ
ในเรื่องของการใช้งานด้านอื่นๆ คนที่ชอบการดูหนังฟังเพลงหรือเล่นเกมก็สามารถใช้งานได้อย่างดีด้วยความที่เป็นมือถือจอสวย จึงทำให้การรับชม Content ต่างๆนั้นเต็มอิ่มและจุใจมากยิ่งขึ้น ทั้งหมดทั้งมวลนี้มาด้วยดีไซน์บางเฉียบสวยงามดูหรูหรา Premium น่าใช้งาน เน้นพกพาสะดวก ถ้าทั้งหมดทั้งมวลที่ว่ามามันตรงกับสไตล์ของคุณ vivo V23e 5G ถือว่าตอบโจทย์ได้ตรงใจสุดๆ แล้ว
ราคา
RAM 8GB + ROM 128GB ราคา 12,999 บาท
เปิดให้พรีออเดอร์ได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 30 พฤษจิกายน 2564 รับฟรี Electric Toothbrush มูลค่า 1,999 บาทไปเลย พร้อมวางขายจริงตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคมเป็นต้นไป สั่งจอง สั่งซื้อกันได้ที่ vivo Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายชั้นนำทั่วประเทศเลย