หลายคนที่มองหาสายรัดข้อมืออัจฉริยะดีๆสักตัวมาใช้งาน วันนี้ TechXcite ขอนำเสนอรีวิว HUAWEI Band 7 ที่เป็นสมาร์ทแบนด์สุดล้ำ มาพร้อมฟีเจอร์การใมช้งานด้านสุขภาพแบบจัดเต็ม เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการอุปกรณ์สวมใส่ที่สามารถใช้งานได้ดีไม่แพ้ Smartwatch แถมยังเบาบาง ดีไซน์สวยงาม ใส่ได้ทุกวัน และมาพร้อมกับจุดเด่นเรื่องแบตเตอรี่ที่อยู่ได้นานถึง 14 วันเลยทีเดียว
เริ่มจากแกะกล่องและมาดูดีไซน์หน้าตาของ HUAWEI Band 7 กันเลยดีกว่า เจ้าตัวนี้มาในแพ็คเกจขนาดเล็กที่มาพร้อมกับสายชาร์จให้ในกล่อง พร้อมคู่มือการรับประกัน และตัว HUAWEI Band 7 ซึ่งตัวที่ได้มารีวิวครั้งนี้เป็นสีแดง Flame Red ดูสปอร์ตมากๆ
สำหรับฟีเจอร์เด่นของ HUAWEI Band 7 ที่มีบอกไว้หลังกล่องก็ได้แก่ ขนาดที่บาง 9.99 mm โดยมีขนาดหน้าจอ 1.47 นิ้วแบบ AMOLED FullView Display ความละเอียด 368x194 พิกเซล ส่วนแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานโดยตามสเปคระบุไว้ว่าใช้งานได้นานถึง 14 วันต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้งเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับระบบตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ มีระบบตรวจสุขภาพการนอน ตรวจระดับความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือด SpO2 ปรับแต่งโหมดออกกำลังกกายได้ถึง 96 รูปแบบ และกันน้ำได้ระดับ 5ATM
สเปคของ HUAWEI Band 7
- ขนาดตัวเรือน : 44.35 x 26 x 9.99 มม.
- ขนาดหน้าน้าจอ : 1.47 นิ้ว
- น้ำหนัก : 16 กรัม
- วัสดุตัวเรือน : โพลีเมอร์
- วัสดุของสาย : ยางซิลิโคน
- รองรับการเชื่อมต่อด้วย Bluetooth 5.0
- ใช้งานร่วมกับแอพพลิเคชั่น HUAWEI Health (ใช้งานได้ใน iOS 9 และ Android 6.0 ขึ้นไป)
- เซ็นเซอร์ : Accelerometer sensor, Gyroscope sensor, Optical heart rate sensor
- มาตรฐานกันน้ำ : 5ATM
- ระบบปฎิบัติการ Harmony OS
- มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีทองชมพู สีดำเทา สีแดง และสีเขียว
มาดูในส่วนของตัวเรือนก่อนเลย ต้องบอกว่าบางเบามากๆ นับว่าเป็นสายรัดข้อมืออัจฉริยะที่ทำให้สวมใส่ได้สบาย ใครที่ไม่ชอบสวมอะไรเทอะทะหรือหนักๆข้อมือ โดยเฉพาะผู้ที่ไม่ชอบสวมนาฬิกาหรือกำไลข้อมือ น่าจะชอบ เพราะสวมแล้วไม่รู้สึกรำคาญเกะกะ แถมด้วยตัวสายยางซิลิโคนปรับระดับได้ละเอียด กระชับพอดีกับข้อมือแน่นอน
ในส่วนของระบบปฎิบัติการเป็น Harmony OS ของทาง HUAWEI นั่นเอง ซึ่งสามารถทำงานร่วมกับอุปกรณ์เชื่อมต่ออื่นๆได้อย่างดี ไม่มีปัญหา ทั้งผู้ใช้งาน HUAWEI เอง หรือผู้ใช้งาน iOS และ Android โดยจะต้องดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นที่มีชื่อว่า HUAWEI Health มาใช้งานร่วมกัน โดยตัวแอพพลิคเคขั่นจะทำหน้าที่ในการจัดการข้อมูลต่างๆ รวมถึงการดาวน์โหลดอัพเดตเฟิร์มแวร์ด้วย
หน้าจอของ HUAWEI Band 7 นั้นมีขนาด 1.47 นิ้ว ถือเป็นขนาดที่กำลังดี เหมือนกับนาฬิกาข้อมือเล็กๆเรือนนึง หน้าจอจะเป็นทรงสี่เหลี่ยม รองรับระบบสัมผัส สามารถควบคุมการทำงานผ่านการแตะที่หน้าจอได้เลย และสีสันของหน้าจอก็สดใส มองเห็นได้ชัดเจนแม้จะเป็นช่วงกลางแดดจ้า มีโหมด Always On Display มาให้ด้วย ซึ่งโหมดนี้จะช่วยให้หน้าจอสามารถแสดงผลได้ตลอดเวลาเหมือนเราใส่นาฬิกาจริงๆ
เรื่องของความบางและการสวมใส่อย่างที่บอกไปแล้วว่าใส่สบาย ด้วยขนาดตัวเรือนที่ไม่ได้ใหญ่นัก และน้ำหนักเบา เวลาใส่แล้วไม่รู้สึกหนักข้อมือ สายยางซิลิโคนมีความยืดหยุ่นสูง ใส่เล่นกีฬาได้ ไม่ระคายเคืองผิว
สายยางชิลิโคนที่ให้มานั้น สามารถถอดเปลี่ยนเองได้อย่างง่ายดายด้วยระบบ Quick Release มีสลักยึดเป็นตะขอที่เกี่ยวออกได้ง่ายเมื่อต้องการเปลี่ยนสายโดยไม่ต้องพึ่งเครื่องถอดสายใดๆ ตรงนี้ก็สะดวกดีเมื่อต้องการถอดเปลี่ยนสายเอง หากสายเดิมขาดหรือต้องการเปลี่ยนสีของสาย
ด้านข้างของตัวเรือนนั้นมีปุ่มสำหรับควบคุมการทำงานของเครื่อง หลักๆเลยก็เอาไว้กดเข้าเมนูต่างๆ หรือกดค้างเพื่อปิดหรือเปิดเครื่อง โดยที่ขอบตัวเรือนใรการำทำสีแบบเมทาลิคเพิ่มความหรูหราด้วย
และที่สำคัญคือการป้องกันน้ำในระดับ 5ATM ซึ่งการกันน้ำในระดับนี้ก็คือ ทนต่อแรงดันน้ำในระดับความลึก 50 เมตร ซึ่งสามารถใส่อาบน้ำ ล้างมือ เล่นน้ำในสระว่ายน้ำ รวมถึงการกันเหงื่อและฝนได้อย่างแน่นอน แต่ไม่แนะนำให้ใส่ว่ายน้ำนานๆ หรือลงน้ำแบบสมบุกสมบัน (เช่นว่ายออกกำลังกายเป็นเวลานาน หรือใช้ดำน้ำ)
ที่บริวเณด้าหนหลังของตัวเรือนนั้น จะมี PIN แม่เหล็กสองจุดสำหรับชาร์จไฟ และเซ็นเซอร์สำหรับวัดอัตราการเต้นของหัวใจ มีไฟเขียวๆกระพริบๆ
ลืมบอกไปว่า HUAWEI Band 7 นั้นรองรับเมนูภาษไทยด้วยนะ ใครที่ไม่ถนัดกับการใช้งานภาษาอังกฤษ ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะอ่านไม่ออก หรือใช้งานไม่ถูก จะให้เด็กๆหรือผู้สูงอายุที่ไม่ถนัดภาษาองักฤษก็ใช้งานง่าย สบายใจ
และเมื่อเชื่อมต่อกับแอพลิเคชั่น HUAWEI Health แล้ว ระบบจะเชื่อมต่อการทำงานโดยอัตโนมัติ ซึ่งจำเป้นต้องใช้งาน Bluetooth ของสมาร์ทโฟน โดย HUAWEI Band 7 จะเชื่อมต่อทั้งเวลา ระบบสุขภาพต่างๆ ซึ่งผู้ที่ใช้งานแอพพลิเคชั่นครั้งแรกต้องมีการลงทะเบียนก่อน การลงทะเบียนก็ไม่ยากแค่กรอกอีเมล์ หรือเบอร์โทรศัพท์ แล้วก็กำหนดรหัสผ่านของเราเอง แต่ถ้าใครใช้สมาร์ทโฟนของ HUAWEI อยู่แล้ว ก็จะเชื่อมต่อการทำงานให้อัตโนมัติ
สำหรับระบบสัมผัสหน้าจอนั้น จะสามารถเลื่อนขึ้น ลง และใช้วิธีเลื่อนปัดซ้าย ขวาได้ โดยหากกดค้างที่หน้าจอขณะที่แสดงผลหน้าหลักอยู่ ก็จะสามารถเข้าสู่ฉหมดการเปลี่ยน Watch Face หรือหน้าตาของหน้าจอหลักนั่นเอง และเรายังสามารถที่จะดาวน์โหลดหน้าจอสวยๆผ่านทางแอพพลิเคชั่นได้ด้วยนะ โดยมีให้เลือกมากกว่า 4,000 แบบ ซึ่งมีทั้งแบบฟรีและจ่ายเงิน
ลองเปลี่ยนหน้าจอเป็นแบบมุ้งมิ้งดูหน่อย ใครที่อยากได้สไตล์ไหนให้เหมาะกับการแต่งตัว หรือเข้ากับสไตล์ของเราก็ลองใช้งานตรงนี้ได้เลย เมื่อดาวน์โหลดมาแล้วก็ใช้งานได้ยาวๆเลย หรือถ้าเบื่อก็เข้าไปดาวน์โหลดเพิ่มก็ได้
หรือจะใช้รูปในมือถือของเราเองมาเป็นภาพสวยๆบนหน้าปัดก็ยังได้เหมือนกัน โดยเข้าไปตั้งค่าในส่วนของหน้าจอที่ชื่อว่า Gallery นั่นเอง แล้วเลือกภาพที่เราต้องการใช้งาน แอพพลิเคชั่นจะให้เลื่อนครอปภาพให้พอดีกับขนาดหน้าปัดแสดงผล พอเราเลือกจนพอใจแล้วกดยืนยันก็จะได้รูปาสยๆมาโผล่บน HUAWEI Band 7 ของเรา
มาพูดถึงฟีเจอร์การทำงานด้านสุขภาพซึ่งถือเป็นจุดเด่นของ HUAWEI Band 7 กันบ้าง ในส่วนของฟีเจอร์ต่างๆด้านสุขภาพนั้น มีฟีเจอร์เด่นที่สามารถวัดระดับออกซิเจนในกระแสเลือดได้ ซึ่งฟีเจอร์นี้มีประโยชน์มากๆในเรื่องของการวัดค่าออกซิเจนในกระแสเลือด (SpO2) โดยเฉพาะช่วงโควิดที่ผ่านมา เราคงเคยได้ยินหรือได้เห็นอุปกรณ์วัดค่าออกซิเจนในกระแสเลือดที่ปลายนิ้ว เพื่อวัดค่าแจ้งเตือนหากค่าออกซิเจนในกระแสเลือดต่ำ ต้องรีบพบแพทย์ ซึงฟีเจอร์นี้จะสามารถวัดค่าไ้ดตลอดทั้งวันขณะที่สวมใส่ และแจ้งเตือนหากค่าออกซิจเนต่ำลง ซึ่งโดยปกติมาตรฐานไม่ควรต่ำกว่า 95%
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์การวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ซึ่งแน่นอนว่าผู้ที่รักสุขภาพ การมีข้อมูลแจ้งเตือนเกี่ยวกับเรื่องหัวใจนั้น จะช่วยให้สามารถวางแผนการออกกำลังกายและการพักผ่อนได้เป็นอย่างดี
ซึ่งในส่วนของการทำงานใน HUAWEI Band 7 เอง ก็มีโหมดบันทึกการออกกำลังกายให้ใช้งานถึง 96 โหมดด้วยกัน ไม่ใช่มีแค้โหมดวิ่ง เดิน หรือว่ายน้ำ แต่มีให้เลือกเลยว่าเราออกกำลังกายประเภทไหน ตั้งแต่โยะคะ เต้นบัลเล่ต์ ยิงธนู ตีปิงปอง เทควันโด พายเรือหรือขับรถแข่งก็มี เรียกได้ว่ากิจกรรมเยอะมากที่ HUAWEI Band 7 สามารถบันทึกได้
ค่าต่างๆที่วัดออกมาก็จะมีตั้งแต่จำนวนแคลอรี่ที่เราใช้ไปในกิจกรรมนั้นๆ อัตราการเต้นของหัวใจ ระยะเวลาที่ทำกิจกรรม หรือจำนวนก้าว และระยะทาง รวมถึงอัตราความเร็ว กรณีทำกิจกรรมประเภทวิ่งหรือเดิน
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ด้านอื่นๆเกี่ยวกับสุขภาพอีกมากมาย ซึ่งสามารถทำงานร่วมกับแอพพลิเคชั้น HUAWEI Health นั่นเอง ทั้งการวัดระดับความเครียดที่ตัวเครื่องมีการวัดระดับจากการเต้นของหัวใจและตรวจจับพฤติกรรมเพื่อวิเคราห์ระดับความเครียด การฝึกกำหนดลมหายใจ การแจ้งเตือนให้ดื่มน้ำหรือลุกจากการนั่งเป็นเวลานาน หรือแม้แต่ระบบติดตามและคำนวณช่วงของการมีประจำเดือนก็ทำได้ ช่วยให้วางแผนเรื่องการมีบุตรหรือตรวจสอบความผิดปกติของรอบเดือนของคุณผู้หญิง
และนอกจากฟีเจอร์การทำงานด้านสุขภาพที่จัดเต็มแล้ว ยังมีฟีเจอร์เกี่ยวกับไลฟ์สไตล์อื่นๆ ทั้งการตรวจวัดคุณภาพการนอนหลับซึ่งแน่นอว่าส่งผลต่อสุขภาพของเรา สามารถใช้ตั้งนาฬิกาปลุก หรือจับเวลา สามารถบอกอุณหภูมิและสภาพอากาศ หรือใช้เป็นอุปกรณ์สำหรับหามือถือของเราด้วยโหมด Find Phone รวมถึงใช้เป็นเหมือนรีโมทกดชัตเตอร์ถ่ายภาพก็ได้ และแน่นอนว่ายังมีระบบแจ้งเตือนสายเข้าหรือมีข้อความใหม่เข้ามา เรียกได้ว่าฟีเจอร์ครบเหมือน Smart Watch
และสุดท้ายกับอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ที่อยู่ได้นานถึง 14 วันเลยทีเดียว เรียกได้ว่าขาร์จเต็มแล้วใช้งานกันยาวๆ ไม่ต้องกังวลถ้าต้องเอาไปใช้งานยาวๆแล้วไม่ได้เอาสายชาร์จไปด้วย รวมทั้งยังมีรับบการชาร์จไว แค่ชาร์จ 5 นาที ก็สามารถใช้งานได้นานถึง 2 วัน หากต้องการชาร์จเต็มใช้เวลาแค่ 65 นาทีเท่านั้น
และสุดท้ายที่อยากบอกก็คือราคาวางจำหน่าย อยู่ที่ 1,899 บาทเท่านั้น โดยในช่วงพรีออเดอร์ สามารถสั่งจอง Huawei Band 7 ในราคาพิเศษเพียง 1,299 บาทเท่านั้น (จากปกติ 1,899 บาท) ระหว่างวันที่ 18 สิงหาคม 2565 ถึง 1 กันยายน 2565 นี้ และมีสีให้เลือก 4 สีคือ Graphite Black, Nebula Pink, Wilderness Green, Flame Red ทั้งนี้สามารถเป็นเจ้าของ HUAWEI Band 7 ได้ที่ช่องทางออนไลน์ HUAWEI Online Stores และร้านค้าออนไลน์ทางการของ HUAWEI บนช่องทาง Shopee, Lazada, JD Central และ Thisshop