Review OnePlus Nord N10 5G

สวัสดีเพื่อน ๆ TechXcite ทุกท่าน กลับมาพบกับบทความรีวิวมือถือรุ่นใหม่กับ เฮียแม็พ. TechXcite อีกเช่นเคย วันนี้เราอยู่กับ OnePlus Nord N10 5G สมาร์ทโฟน 5G ราคาประหยัดรุ่นใหม่จาก OnePlus ที่เพิ่งเปิดตัวไปหมาด ๆ นี่เอง รุ่นนี้ก็ถือเป็นรุ่นราคาถูกที่สุดของ OnePlus ในปีนี้เลย แต่ราคาถูกก็ให้ทุกอย่างมาครบ ตามสไตล์แบรนด์นี้เลยนะจ๊ะ ทั้งความลื่นไหล สเปคที่ดี ดีไซน์ที่ไม่ธรรมดา กล้องสวยถ่ายชัด และที่ขาดไม่ได้มี 5G ด้วย ! ทั้งหมดนี้รวมอยู่ในราคาเปิดตัวเพียง 9,990 บาทเท่านั้น อย่ารอช้าติดตาม รีวิว OnePlus Nord N10 5G กันเลยดีกว่า !!

ดีไซน์

ดีไซน์สวยมีลูกเล่นกับสี Mignight Ice

มาเริ่มต้นกันที่ดีไซน์ตัวเครื่องก่อนเลย OnePlus Nord N10 5G มีให้เลือกสีเดียวเลยคือ Mignight Ice ใช้ฝาหลังสีดำที่มีความมันวาว และเวลามีการสะท้อนกับแสงก็จะมีลูกเล่นสะท้อนสวย ๆ เข้ามาเป็นเส้น ๆ ด้วย ให้ความหรูหราใช้ได้เลย ไม่ใช่สีเดียวแบบทื่อ ๆ เนาะ

ขนาดตัวเครื่องมาแบบพอดิบพอดี น้ำหนักอยู่ที่ 190 กรัม ฝาหลังใช้วัสดุเป็นพลาสติกที่มีความมันวาว ใช้งานจริงสวยงามดี แต่ก็เก็บคราบรอยนิ้วมือได้ง่ายเหมือนกัน ถ้าใช้งานจริงแล้วต้องการความสวยงามก็คงต้องหมั่นเช็ดกันหน่อยล่ะ แต่โชคยังดีที่ฝาหลังของรุ่นนี้สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่ายอยู่

ตัวเครื่องบาง 8.95 มม. ก็กำลังดี

น้ำหนักตัวเครื่องที่ 190 กรัมเมื่อรวมอยู่กับความบางประมาณ 8.95 มม. ก็ถือว่ากำลังลงตัวเลยครับ เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ทำขนาดและน้ำหนักได้พอดีมือมาก ไม่หนักหรือเบาจนเกินไป เหมาะกับการพกพาไปไหนมาไหนอยู่ครับ

เลนส์กล้องทรงตัว L พร้อมเซ็นเซอร์สแกนนิ้วที่ด้านหลัง

ตัวเลนส์กล้องของ OnePlus Nord N10 5G จะวางไว้ในกรอบเลนส์อันเดียวที่มุมซ้ายบนในรูปทรงตัว L และมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือกลม ๆ อยู่เหนือโลโก้ OnePlus ด้วยครับ นานแล้วเนอะที่ไม่ได้เห็นเซ็นเซอร์สแกนนิ้วข้างหลังแบบนี้

หน้าจอ IPS สีสวยนะ ลื่นด้วย

พลิกกลับมาดูที่หน้าจอกันบ้าง แม้ OnePlus Nord N10 5G จะไม่ได้หน้าจอ AMOLED มาเหมือนรุ่นพี่ ๆ แต่ในเรื่องการแสดงผลต้องยอมรับว่าเป็นจอ IPS ทำได้ดีกว่าที่คิดครับ สีสันและมุมมองทำได้กว้างเลย แถมยังมีขนาดใหญ่ถึง 6.49” อีกต่างหาก ให้การแสดงผลที่เต็มตาดีเลยล่ะ

refresh rate 90Hz แหนะ

ถึงแม้จะลดสเปคจอลงมาแต่ความลื่นไหล OnePlus ไม่เคยทิ้งเลยจริง ๆ เพราะถึงแม้จะเป็นรุ่นเล็ก แต่ก็ยังได้ refresh rate สูง 90Hz มาด้วย มอบประสบกรณ์การทำงานที่ยอดเยี่ยมมาก ๆ เลื่อนหน้าจอ ปัดไปปัดมา ติดนิ้วติดตาไปหมดครับ

กรอบเครื่องมันวาวกับ ปุ่ม Alert Silder ที่หายไป

ที่รอบ ๆ ตัวเครื่องรุ่นนี้จะใช้วัสดุเป็นพลาสติกผิวมัน ให้ความรู้สึกที่กลมกลืนไปกับตัวเครื่องได้เป็นอย่างดี และไม่ก๊องแก๊ง มีปุ่ม Power อยู่ที่ด้านขวามือ แต่ ๆ รุ่นนี้ตัดปุ่ม Alert Slider ออกไปแล้ว เหนือปุ่ม Power ก็เลยไม่มีอะไรมาให้กดแล้ว ตรงนี้แอบเสียดาย เพราะเอกลักษณ์นี้เป็นของแบรนด์ OnePlus พอเป็นรุ่นราคาประหยัดแล้วไม่มีแบบนี้เลยเหมือนขาดอะไรไป

ปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงวางอยู่ที่ด้านซ้ายของตัวเครื่อง ใช้ปุ่มเดียวยาว ๆ ที่แบ่งส่วนอยู่ภายในครับ

ด้านบนของตัวเครื่องมีไมโครโฟนสำหรับตัดเสียงรบกวนอย่างเดียวก็เรียบ ๆ ดี

ส่วนพอร์ตการเชื่อมต่ออยู่ด้านล่างเป็น USB type-C, มีแจ็คหูฟัง 3.5 มม. ให้ใช้งานอยู่ด้วย ไมโครโฟนและลำโพงหลักของตัวเครื่องก็อยู่ที่มุมล่างนี้ ซึ่งตัวลำโพงของ OnePlus Nord N10 5G นั้นสามารถใช้งานร่วมกับลำโพงสนทนาด้านบนให้เป็นลำโพง Stereo คู่ได้ด้วยนะ

ถาดซิมของ OnePlus Nord N10 5G จะเป็นแบบ Hybrid-Slot ครับ สามารถเพิ่ม micro-SD ได้สูงสุดถึง 512GB เลยด้วยเมื่อใส่ในช่องซิม 2 ครับ

โดยรวมในเรื่องดีไซน์ของ OnePlus Nord N10 5G ถือว่าทำออกมาได้ดีทีเดียว งานประกอบยังพรีเมี่ยมใช้งาน ความมันวาวของฝาหลังที่มีลูกเล่นสะท้อนกับแสงก็ช่วยให้เครื่องดูแพงขึ้นไปอีก หน้าจอที่แสดงผลได้สวยแถมเป็น 90Hz ก็ลงตัวดี แต่ก็มีจุดที่ขัดใจอยู่บ้างคือเรื่องการตัดเอาปุ่ม Alert Slider ออกไปและเซ็นเซอร์สแกลนลายนิ้วมือที่ด้านหลังตัวเครื่อง มันเลยทำให้ตัวเครื่องดูราคาถูกลงไปอีกนิดเมื่อเทียบกับแบรนด์ OnePlus อะนะ

สเปคและประสิทธิภาพ

สเปค OnePlus Nord N10 5G

• หน้าจอ IPS LCD 6.49” ความละเอียด FHD+
• อัตราส่วนแบบ 20:9 Refresh Rate 90Hz
• หน่วยประมวลผล Snapdragon 690 5G
• แรม 6GB 
• ความจุ 128GB
• แบตเตอรี่ 4300mAh
• รองรับชาร์จไว WarpCharge 30T
• กล้องหน้า 16MP
• กล้องหลัง 4 ตัว
  • กล้องหลัก 64MP f/1.79 EIS
  • เลนส์ Ultra Wide Angle 8MP มุมกว้าง 119 องศา f/2.25
  • เลนส์ macro 2MP f/2.4
  • เลนส์ monochrome 2MP f/2.4
• รัน Android 10 ครอบทับด้วย OxygenOS 10.5
• ขนาดตัวเครื่อง 163 x 74.7 x 8.95 กรัม
• น้ำหนัก 190 กรัม

ใช้ชิปเซ็ตตัว Snapdragon 690 มี 5G ด้วย

OnePlus Nord N10 5G มาพร้อมชิปเซ็ตตัวใหม่ล่าสุดอย่าง Snapdragon 690 5G อย่างที่บอกว่ารองรับ 5G เต็มประสิทธิภาพ ในส่วนของประสิทธิภาพก็ไม่ธรรมดาด้วย เราทดสอบคร่าว ๆ ผ่าน AnTuTu ก็ได้คะแนนออกมาสูง 280924 คะแนนแหนะ น้อง ๆ Snapdragon 765 แล้วนะ

ใช้ 5G ได้เลยนะ ตั้งแต่แกะกล่อง

และแน่นอนว่าชื่อรุ่นก็ระบุชัดอยู่แล้วว่า OnePlus Nord N10 5G รุ่นนี้ก็รองรับการใช้งาน 5G ได้ในทันที ใส่ซิมปุ๊บอยู่ในพื้นที่มีสัญญาณ ไอคอน 5G ก็ขึ้นมาทันที ใช้งานได้เลยตั้งแต่แกะกล่องไม่ต้องรออัปเดตจ้า

และเราก็ทดสอบมาให้แล้ว ความเร็วเฉลี่ยระดับ 700 - 800Mbps ถือว่าทำได้ยอดเยี่ยมจริง ๆ เข้าสู่ยุคใหม่ของสมาร์ทโฟน 5G ในราคาที่จับต้องได้จริง ๆ 

เล่นเกมเลย สเปคนี้ไหวแค่ไหน !?

มาต่อในเรื่องการเล่นเกม อย่างที่บอกว่าชิปเซ็ต Snapdragon 690 นั้นเป็นตัวใหม่เลย หลายคนอาจสงสัยในเรื่องประสิทธิภาพว่าถ้านำมาเล่นเกมฮิต ๆ จะทำได้ดีไหม วันนี้เราทดสอบกับเกมฮิตอย่าง Asphalt 9 และ Call of Duty Mobile ให้เลยครับ

เล่น Asphalt 9 บน OnePlus Nord N10 5G

เริ่มต้นที่ Asphalt 9 ก่อนเลย ด้วยชิปเซ็ตระดับกลางเราจึงไม่สามารถเปิด 60fps ได้ คุณภาพกราฟิกก็เลือกไว้ที่ Default ในค่าเริ่มต้นครับ แต่ปรับสูงสุดได้ที่ High Quality แต่เท่าที่ลอง ปรับ Default จะลงตัวสุดครับ เล่นได้อย่างลื่นไหล

การแสดงผลแสงและสีสวยงามตามสไตล์เกมนี้ครับ ภาพเต็มตาบนหน้าจอขนาด 6.49" นี้ สีสวยมุมมองกว้างดีจริง ๆ ตัวเฟรมเรตก็นิ่งใช้ได้ เล่นได้อย่างลื่นไหล แต่อย่างที่บอกว่าปรับไปที่ Default แต่แรก ไม่ต้องไปปรับเพิ่มครับ เพราะถ้าปรับไปที่ High Quality จะแอบทีเฟรมตกอยู่บ้างเวลาใส่เอฟเฟกต์เยอะ ๆ หรือมีการเบียดกันหนัก ๆ ครับ

เล่น Call of Duty Mobile บน OnePlus Nord N10 5G

มาต่อกันที่เกมฮิตอย่าง Call of Duty Mobile บน OnePlus Nord N10 5G สามารถปรับระดับกราฟิกได้สูงสุดถึง Very High และเฟรมเรต High ครับ รายละเอียดยิบย่อยอย่างพวกการลบรอยหยักก็เปิดได้เช่นกัน

เท่าที่เล่นจริง ๆ ตัวเครื่องทำได้ดีครับ เฟรมเรตนิ่งใช้ได้เลย การตอบสนองของหน้าจอก็รับการคำสั่งได้ดี ไม่มีดีเลย์ แถมได้ลำโพงคู่ Stereo มาด้วย เวลาเล่นเกมแนวนี้แล้วได้ลำโพงคู่ มันช่วยให้เราได้ยินเสียงรอบทิศทางได้ดีกว่าลำโพงเดี่ยวจริง ๆ เล่นแล้วฟินอะ

โดยรวมในเรื่องของประสิทธิภาพ OnePlus Nord N10 5G ก็ถือว่าตอบโจทย์ได้ดีทีเดียวกับงบประมาณเท่านี้ สเปคเล่นเกมได้ครอบคลุม ทำงานได้อย่างรวดเร็วและลื่นไหล แถมยังรองรับ 5G ที่เพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานอินเทอร์เน็ตบนมือถือไปได้อีกขั้นด้วย ถือว่าไม่ธรรมดาจริง ๆ รุ่นนี้

ซอฟต์แวร์และฟีเจอร์การใช้งาน

ใช้ OxygenOS 10.5 ลื่น ๆ ไปเลยนะ

ต่อมาเรามาดูซอฟต์แวร์และการใช้งานกันหน่อย OnePlus Nord N10 5G มาพร้อมกับ Android 10 ที่ครอบทับด้วย OxygenOS 10.5 แม้จะไม่ใช่ตัวล่าสุดแบบรุ่นพี่ แต่ในเรื่องการทำงานก็ยอดเยี่ยม มอบประสบการณ์การทำงานลื่นไหลในแบบของ OnePlus ได้ดีจริง ๆ

มีลูกเล่นการปรับแต่งไอคอนรวมถึง Theme ของเครื่องเพิ่มเติมได้อีกหน่อย ช่วยให้เราใช้งานได้ไม่เบื่อ อย่างธีมของตัวเครื่องก็เลือกปรับได้ว่าจะเอาแบบสว่าง/มืด หรือจะเป็นพวกไอคอนก็เลือกปรับได้ 2 แบบถ้าอยากได้แบบใหม่ ๆ ก็ไปหาจาก Play Store มาเพิ่มเติมได้เองด้วยนะ ยิดหยุ่นดีจริง ๆ OxygenOS เนี่ย

รองรับการใช้งาน Navigation Gesture ให้เราใช้งานเลื่อน ปาด ยกบนหน้าจอได้อย่างลื่นไหลบนหน้าจอ 90Hz ของ OnePlus Nord N10 5G ครับ

มีหน้า Ambient Display ด้วย แสดงผลนาฬิกา สถานะแบตเตอรี่รวมถึงไอคอนการแจ้งเตือนด้วย แต่ของ OnePlus Nord N10 5G จะไม่มีฟีเจอร์แตะเพื่อดูสถานะเนาะ ใช้ได้แค่ยกเครื่องขึ้นมาแล้วดูแทน

ดูวิดีโอแจ่ม HDR YouTube ได้ด้วย

ส่วนเรื่องการดูคอนเทนต์วิดีโอบน OnePlus Nord N10 5G ก็รองรับมาตรฐานต่าง ๆ ได้เต็มที่ ชัดแจ๋วบนหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 6.49" ดูหนัง ดูวิดีโอนี่ฟินเลย แถมตัวหน้าจอยังรองรับการดูไฟล์ HDR บน YouTube ด้วยนะ

ส่วนเรื่องเสียงก็ได้ลำโพง Stereo คู่มาอย่างที่บอก ได้มิติของเสียงที่ดีเวลาจะดูหนังหรือฟังเพลง คุณภาพก็โอเคเลยครับ แถมยังมีแจ็คหูฟัง 3.5 มม. มาให้ด้วย สำหรับใครที่ชอบใช้งานหูฟังแบบมีสายอยู่ รุ่นนี้ก็ถูกใจแน่นอน

กล้อง

กล้องหลัง 4 ตัว 64MP ถ่ายชัดมากกกก

สำหรับกล้อง OnePlus Nord N10 5G มาพร้อมกล้องหลังความละเอียดสูงถึง 64MP ใช้เซ็นเซอร์ Omnivision OV64B ให้ความคมชัดสูง พร้อมกันนี้ยังมีเลนส์มุมกว้างและเลนส์ macro มาให้ใช้งานด้วย มีสเปคคร่าว ๆ ดังนี้

• กล้องหลัก 64MP Omnivision OV64B f/1.79 EIS
• เลนส์ Ultra Wide Angle 8MP มุมกว้าง 119 องศา f/2.25
• เลนส์ macro 2MP f/2.4
• เลนส์ monochrome 2MP f/2.4

อย่างที่เห็นครับกล้องหลัง 4 ตัวที่ให้มาก็ครบต่อการใช้งานดีจริง ๆ ตัว UI การใช้งานก็ไม่ยุ่งยาก กดสลับเลนส์ได้จากไอคอนรูปต้นไม้ สลับไป Ultra Wide Angle ได้ง่าย ๆ จะซูมเข้าไปก็เป็น Digital สูงสุดที่ 10x เลนส์ตัวหลักความละเอียดสูงตั้ง 64MP แบบนี้จะซูมเข้าไปที่ 2x - 3x ก็ยังคมกริ๊บอยู่นะ หรือจะเลือกใช้เลนส์ macro ก็กดได้จากไอคอนดอกไม้ด้านบนได้เลย

โหมดการใช้งานต่าง ๆ ก็มีมาให้เลือกแบบครบครันทั้ง Portrait, Nightscape, Pro ถ่ายเป็นไฟล์ RAW ได้ด้วยนะ

ความละเอียดสูงสุด 64MP ถ่ายชัดมาก

อย่างที่บอกไปว่าความละเอียดกล้องของ OnePlus Nord N10 5G นั้นสูงสุดถึง 64MP แต่ในการใช้งานทั่วไป ระบบจะตั้งมาให้เราที่ 16MP เพื่อประหยัดพื้นที่ แต่ถ้าเราอยากได้ไฟล์เต็ม ๆ ก็สามารถกดสลับได้ง่ายเพียงแค่แตะที่ไอคอนกรอบสี่เหลี่ยมที่มีตัวเลขด้านบนให้เป็น 64M ได้เลย

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลังของ OnePlus Nord N10 5G ความละเอียด 64MP จะเห็นว่าไฟล์ภาพที่ใหญ่จัด ๆ แบบนี้ มีประโยชน์มากในการนำมาใช้งานต่อ เพราะมันคมขนาดที่เราสามารถครอปเข้าไปได้ระดับ 300% ก็ยังคมชัดอยู่ เผื่ออยากถ่ายภาพกว้าง ๆ แล้วมาครอปบางส่วนไปใช้งานก็เปิด 64MP เลย แต่ถ้าไม่ใช้แค่ 16MP ก็เพียงพอแล้วล่ะเนาะ และนี่คือภาพตัวอย่างจากกล้องของ OnePlus Nord N10 5G เพิ่มเติมครับ...

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลังของ OnePlus Nord N10 5G จะเห็นว่าคุณภาพโดยรวมทำได้ดีจริง ๆ รายละเอียดและความคมชัดของภาพ รวมถึงสีสันทำได้ตามสไตล์ของ OnePlus สีสันจัดจ้าน ช่วงเลนส์ที่ให้มาทั้ง Ultra Wide Angle ก็ทำได้ดีไม่ใช่แค่เลนส์หลัก 64MP อย่างเดียวเนาะ

Portrait mode ถ่ายคนก็สวย

มาต่อที่โหมดถ่ายคนหรือ Portrait บน OnePlus Nord N10 5G สามารถใช้เลนส์หลักในการถ่ายได้แค่ระยะเดียวคือ 1x มุมมองที่ได้ก็จะกว้างกว่า 2x หรือ 3x ของรุ่นก่อน ๆ หน่อย มีเอฟเฟกต์พวก Face Beauty ให้เลือกปรับเพิ่มเติมด้วย

ตัวอย่างภาพถ่าย Portrait จาก OnePlus Nord N10 5G ในเรื่องการละลายหลังรุ่นนี้ทำได้ดีเลย ตัดขอบได้เนียนตาใช้ได้ เพิ่ม Bokeh และ HDR เข้ามาอีกหน่อย ให้ฉากหลังดูสวยและน่าสนใจ แต่ตัวใบหน้าจะมีความออร่าเยอะขึ้นมาเป็นพิเศษด้วย ซึ่งถ้ายิ่งเปิด Face Beauty นี่จะดูหลอกตาเข้าไปอีก แนะนำว่าใช้งานแบบไม่เปิด Face Beauty จะดีที่สุดครับ

Nightscape กลางคืนเก่ง ได้ 2 ระยะ

ส่วนโหมดกลางคืน OnePlus Nord N10 5G ก็มี Nightscape ที่สามารถใช้งานได้ทั้ง 2 ระยะ มุมปกติและ Ultra Wide Angle เลยด้วย

ตัวอย่างภาพถ่ายโหมด Nightscape จาก OnePlus Nord N10 5G โทนสีของโหมดกลางคืนจากรุ่นนี้ก็ยังได้ความจัดจ้านขึ้นมาอย่างดี สีสันสวยใช้ได้ แถมการทำงานก็รวดเร็วดี เราไม่จำเป็นต้องถือค้างอยู่นานกดเพียงไม่กี่วินาทีก็ถ่ายภาพไปประมวลผลต่อได้แล้ว

กล้องหน้า 16MP เซลฟี่เยี่ยม

ปิดท้ายเรื่องภาพนิ่งกันที่กล้องหน้า OnePlus Nord N10 5G มาพร้อมกล้องหน้าความละเอียด 16MP เซลฟี่ได้สวยคมชัดแน่นอน เรามาชมตัวอย่างกันจากด้านล่างนี้เลย

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้าของ OnePlus Nord N10 5G

วิดีโอสูงสุด 4K/30fps

และเรื่องวิดีโอ OnePlus Nord N10 5G ก็รองรับการถ่ายวิดีโอสูงสุดที่ระดับ 4K/30fps เลยทีเดียว ถ่ายวิดีโอได้อย่างคมชัด รวมถึงยังมีโหมด Slowmotion และกันสั่นนิ่ง ๆ จาก EIS ให้ใช้งานด้วย

แบตเตอรี่และระบบชาร์จ

แบตเตอรี่ 4300mAh อึดใช้ได้

เข้าสู่เรื่องสุดท้ายกับแบตเตอรี่ OnePlus Nord N10 5G ได้แบตเตอรี่มาเยอะถึง 4300mAh ใช้งานร่วมกับหน้าจอขนาด 6.49" และชิปเซ็ตตัวใหม่แบบนี้ก็ถือว่าพอเหมาะพอเจาะ เท่าที่เราลองใช้งานมากว่า 1 สัปดาห์ ก็พบว่าแบตเตอรี่ของรุ่นนี้อึดใช้ได้เลย ใช้งานได้ต่อเนื่องทั้งวันรวมถึงการเชื่อมต่อ 5G ไปแล้วด้วย ไม่ต้องห่วงเรื่องแบตเตอรี่เนาะ รุ่นนี้เอาอยู่ !

รองรับชาร์จไว Warp Charge 30T

ส่วนเรื่องระบบชาร์จ OnePlus Nord N10 5G รองรับระบบชาร์จไว Warp Chage 30T แบบเดียวกับรุ่นพี่ทั้ง OnePlus 8, OnePlus Nord เลย ชาร์จเร็วทันใจ OnePlus เคลมว่าชาร์จเพียง 30 นาทีก็สามารถใช้งานต่อได้ทั้งวันแล้ว เวลาเร่ง ๆ ได้ชาร์จเร็วแบบนี้ดีเยี่ยมจริง ๆ

สรุป

สรุปแล้ว "สมาร์ทโฟน 5G ที่มอบประสบการณ์ OnePlus แบบที่ไม่ต้องจ่ายแพง"

สำหรับ OnePlus Nord N10 5G ก็ถือว่าเป็นครั้งแรกของ OnePlus ที่ทำราคาได้ดีขนาดนี้ แต่ความสามารถหลัก ๆ นั้นไม่ได้ถูกลดทอนลงไปเลย ทั้งในเรื่องดีไซน์ที่สวยพรีเมี่ยม ความลื่นไหลของซอฟต์แวร์ OxygenOS นี่สุดจริง ๆ หน่วยประมวลผลที่เร็วและตอบโจทย์ รวมถึงกล้องหลัง 4 ตัวที่มีความละเอียดสูงสุด 64MP ถ่ายภาพดีโทนสไตล์ OnePlus และที่สำคัญมี 5G มาให้ใช้งานเลยตั้งแต่แกะกล่องด้วย ทั้งหมดนี้ก็ถือว่าเป็นความลงตัวของสเปคและราคาแล้วล่ะ ใครกำลังมองหาสมาร์ทโฟน 5G ที่มอบประสบการณ์การทำงานที่ลื่นไหลในแบบที่ OnePlus มอบให้ได้โดยไม่ต้องจ่ายแพง รุ่นนี้คือคำตอบครับ

ราคาและโปรโมชั่น

OnePlus Nord N10 5G เปิดราคามาที่ 9,990 บาท เริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.63 เป็นต้นไป และสำหรับผู้ที่ซื้อภายในวันที่ 1 - 11 ธ.ค. 63 รับของแถมเป็น ลำโพง Desktop Speaker และ E-VIP Card มูลค่ารวมกว่า 5,390 บาท

และพิเศษเมื่อสั่งจองผ่านโอเปอเรเตอร์ทั้ง 3 ค่าย เริ่มต้นเพียง 3,490 บาทเท่านั้น !!

รีวิวโดย : เฮียแม็พ. TechXcite