ในงานเปิดตัว Huawei Winter Flagship Launch เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว (23 ธ.ค. 2564) Huawei ไม่เพียงแต่เปิดตัวสมาร์ทโฟน Huawei P50 Pocket ซึ่งเป็นโทรศัพท์ฝาพับระดับพรีเมียมที่เป็นคู่แข่งกับ Samsung Galaxy Z Flip 3 เท่านั้น แต่ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของจีนยังได้เปิดตัวแบรนด์ที่สองของแบรนด์อีกด้วย ซึ่งเป็นรถยนต์ SUV ไฟฟ้าแบบไฮบริดในจีน เรียกว่า Huawei AITO M5 Smart Car อีกด้วย

Huawei AITO M5 เป็นรถเอสยูวีไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริดอัจฉริยะรุ่นแรกของ AITO ซึ่งเป็นก้าวใหม่ที่กล้าหาญของแบรนด์ในการร่วมทุนในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของจีน ด้วยแรงบันดาลใจจาก Porsche Macan การออกแบบจึงโฉบเฉี่ยวและดูทันสมัย ​​พร้อมการตกแต่งภายในที่กว้างขวาง โดยได้รับการพัฒนาร่วมกันจาก Huawei และ Seres แบรนด์จีนอีกราย ซึ่งอยู่ภายใต้บริษัทในเครือ Chongqing Sokon

อย่างไรก็ตาม คุณลักษณะที่โดดเด่นของสมาร์ทคาร์ Huawei AITO M5 คือการมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการภายในของ Huawei หรือ HarmonyOS นั่นเองครับ ที่เป็นการผสานรวมอย่างราบรื่นสำหรับผลิตภัณฑ์ Huawei IoT เช่น สมาร์ทโฟน แล็ปท็อป สมาร์ทวอทช์ และล่าสุด สำหรับรถยนต์อัจฉริยะด้วยเช่นกัน

ในการแถลงข่าวเมื่อเร็วๆ นี้ คุณ Yu Chengdong รองประธานอาวุโสของ Huawei และ CEO ของ Huawei Smart Car Division กล่าวว่า Huawei ได้พัฒนา Bluetooth และ NFC ตัวแรกของอุตสาหกรรมที่รองรับกุญแจรถดิจิทัล หรือ Digital Car Keys สำหรับรถยนต์อัจฉริยะ AITO M5 ที่เพิ่งเปิดตัวอีกด้วย

CEO ยังอธิบายว่าบนสมาร์ทโฟนที่รองรับ HarmonyOS 2.0 จะมีกุญแจรถอัจฉริยะแบบดิจิทัลจะอยู่ภายในแอป Huawei Wallet ที่ให้คุณทำทุกอย่างได้เหมือนกุญแจรถจริงๆ โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการวางกุญแจผิดที่หรือหากุญแจในกรณีฉุกเฉินไม่เจอ โดยกุญแจรถดิจิทัลจะใช้บลูทูธเพื่อปลดล็อกและล็อกรถจากระยะไกล และหากบลูทูธไม่ทำงานหรือแบตเตอรี่โทรศัพท์หมด กุญแจรถยังรองรับ NFC (แม้ไม่มีแบตเตอรี่โทรศัพท์) สำหรับการปลดล็อกรถได้อย่างสะดวก คุณจึงยังคงสามารถเข้าถึงรถได้แม้ว่า Bluetooth จะไม่ทำงาน

นอกจากนี้ การเข้ารหัส NFC และ Bluetooth ของคีย์ดิจิทัลยังมีอยู่ในรถยนต์อัจฉริยะ และเป็นไปตามมาตรฐาน China ICCE รวมถึงความปลอดภัยทางถนนและความเป็นส่วนตัวของผู้ขับขี่รถยนต์และผู้โดยสาร ซึ่งในวันนี้กุญแจรถดิจิทัลมีให้ใช้งานบนสมาร์ทโฟน Huawei ที่รัน HarmonyOS 2.0 เท่านั้น อย่างไรก็ตาม Huawei กำลังวางแผนที่จะเพิ่มฟังก์ชันนี้ให้กับ Huawei Watch 3 Series ด้วยเช่นกัน เนื่องจากจะสะดวกกว่าสำหรับผู้ขับขี่ในการปลดล็อกรถ

source: gizmochina