Introduction

สวัสดีครับ กลับมาพบกับการรีวิวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่กับ พี่หมี TechXcite อีกครั้งนะครับ ต่อเนื่องกับการรีวิว Samsung Galaxy Z Flip4 ก่อนหน้านี้ ก็มาดูรุ่นใหญ่ระดับบนสุดของตระกูลหน้าจอพับได้จากซัมซุงกันครับ คือ Samsung Galaxy Z Fold4 ที่กลับมาครั้งนี้จะมาพร้อมกับตัวเครื่องที่สวยน่าใช้เช่นเคย มีหน้าจอพับได้ที่เปลี่ยนสมาร์ทโฟนเป็นแท็บเล็ตขนาดย่อมๆ ได้เลย

จุดเด่นของ Samsung Galaxy Z Fold4 รุ่นใหม่นี้หลักๆ จะโฟกัสไปที่การอัพเกรดกล้องถ่ายภาพ และยังคงความเป็นสมาร์ทโฟนที่สามารถเปลี่ยนเป็นแท็บเล็ตได้ และเน้นในด้านการเสริม Productivity ที่ยอดเยี่ยม โดยจะมาพร้อมกล้องหลักตัวใหม่ที่คุณภาพสูงขึ้น ต่างจาก Z Fold3 รุ่นก่อนที่ยังใช้เซ็นเซอร์จากสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นก่อน แต่ยังคงกล้อง Ultrawide และ Telephoto แบบเดิมเอาไว้ รวมถึงการปรับดีไซน์ด้วยการลดขนาดขอบหน้าจอลง และตัวเครื่องมีขนาดกะทัดรัดมากขึ้น และน้ำหนักลดลง และใช้ชิปเซ็ตระดับเรือธงจาก Qualcomm คือ Snapdragon 8+ Gen 1 ที่ดีที่สุดในปัจจุบัน

ส่วนหน้าจอด้านในยังคงมีขนาด 7.6 นิ้วรองรับความถี่ 120Hz แบบ Adaptive ปรับการแสดงผลได้ตามการแสดงผลที่ใช้ ส่วนจอนอกมีขนาด 6.2 นิ้ว มีลำโพง Stereo ใช้การสแกนนิ้วบนปุ่ม Power ที่ด้านข้าง กันน้ำ IPX8 และมีตัวเครื่องที่แข็งแรงมากยิ่งขึ้น

ส่วนการใช้งานจริงจะเป็นอย่างไร เราทดสอบไว้ให้แล้วครับ ไปติดตามกันได้เลย

Specification

• ขนาดตัวเครื่อง
• ขณะกางหน้าจอ 155.1x130.0x6.3 มม. 
• ขณะพับหน้าจอ 155.1x67.1x14.2-15.8 มม.
• น้ำหนัก 263 กรัม 
• กันน้ำระดับ IPX8 (1.5 เมตรเป็นเวลา 30 นาที) 
• หน้าจอด้านในขนาด 7.6 นิ้ว Foldable Dynamic AMOLED 2X, 120Hz, HDR10+, 1200 nits ความละเอียด 2176x1812 พิกเซล สัดส่วน 10.8:9 373ppi 
• หน้าจอด้านนอก 6.2 นิ้ว Dynamic AMOLED 2X, 120Hz, 904x2316 พิกเซล, สัดส่วน 23.1:9, 401ppi 
• ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 8+ Gen 1 (4nm) 
•  RAM 12GB 
• หน่วยความจำภายใน 256/512GB หรือ 1TB (UFS 3.1) 
• ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 12 คู่กับ OneUI 4.1 
• กล้องถ่ายภาพ 
• กล้องหลัง 3 ตัว 
• กล้องหลัก 50 MP, f/1.8, 23mm, 1.0µm, Dual Pixel PDAF, OIS 
• กล้อง Ultrawide 12 MP, f/2.2, 123˚, 12mm, 1.12µm 
• กล้อง Telephoto 10 MP, f/2.4, 66mm, 1.0µm, PDAF, OIS, 3x optical zoom 
• กล้องหน้าด้านใน แบบใต้หน้าจอ Under-Display Camera 4MP f/1.8, 2.0µm 
• กล้องหน้าบริเวณจอนอก 10 MP, f/2.2, 26mm, 1/3", 1.22µm 
• แบตเตอรี่ 4400mAh 
• รองรับชาร์จเร็ว 
• แบบมีสาย 25W 
• แบบไร้สาย 15W 
• รองรับชาร์จไร้สายย้อนกลับ 4.5W 
• มีเซ็นเซอร์สแกนนิ้วด้านข้างบริเวณปุ่ม Power 
• รองรับ NFC 
• ลำโพง Stereo 
• รองรับ Samsung DeX (desktop experience support), Samsung Pay (Visa, MasterCard certified), Ultra Wideband (UWB) 
• รองรับปากกาสไตลัส S-Pen

Design

ด้านดีไซน์และการออกแบบ Samsung Galaxy Z Fold4 ยังคงเอกลักษณ์การออกแบบที่ดูดีพรีเมี่ยมสไตล์ Z Fold-Series เอาไว้อย่างชัดเจน มาพร้อมการออกแบบที่ผู้ใช้สามารถใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการพับครึ่งเพื่อใช้งานสะดวกด้วยมือเพียงข้างเดียวคล้ายกับสมาร์ทโฟนมาตราฐานทั่วไป และที่พิเศษกว่าคือสามารถกางหน้าจอออกเพื่อให้มีหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 7.6 นิ้ว ช่วยเพิ่มพื้นที่การใช้งานหลากหลายยิ่งขึ้น ตอบโจทย์ได้ทั้งผู้ใช้งานที่เกี่ยวข้องกับความคิดสร้างสรรค์ เช่น ครีเอทีฟ หรือคอนเท้นต์ครีเอเตอร์ ตลอดจนด้านความบันเทิง เพราะด้วยหน้าจอที่นอกจากจะใหญ่แล้ว ยังทรงพลังด้วยหน้าจอ Foldable Dynamic AMOLED 2X ที่ความถี่ Adaptive 120Hz แสดงผลได้ลื่นไหล และคมชัด รวมถึงยังรองรับ HDR10+ และมีความสว่างสูงสุดถึง 1200nits ทำให้สามารถแสดงผลได้รายละเอียดที่้ลึกขึ้น สมจริงขึ้น และสว่างสู้แดดหรือสภาพแวดล้อมได้ทุกรูปแบบ

และด้วย OneUI เวอร์ชั่น 4 ที่ช่วยให้เราใช้ประโยชน์จากหน้าจอขนาดใหญ่ได้มากขึ้น ด้วยการรันแอปพลิเคชันแบบมัลติทาสกิ้งได้หลายแอปพร้อมกันได้อีกด้วย

การออกแบบของ Samsung Galaxy Z Fold4 ยังมีขนาดที่กะทัดรัดมากขึ้น มีบอดี้ที่สั้นลง บางลง และน้ำหนักเบาลงเมื่อเทียบกับ Fold รุ่นก่อน ทำให้สามารถพกพาได้สะดวกยิ่งขึ้น จะใส่กระเป๋ากางเกง หรือกระเป๋าเสื้อก็ง่ายสบายมากครับ

อีกทั้งยังเป็นสมาร์ทโฟนในซีรีย์สูงที่สุดของซัมซุง ณ ปัจจุบัน ทำให้มีวัสดุเฟรมตัวเครื่องเป็นอลูมิเนียม ให้ความทนทานต่อการตกกระแทก และทนต่อรอยขีดข่วนได้ดีขึ้นกว่าเดิม และจากที่เรารีวิว การวางเครื่องให้พับ 90 องศาจะต้องวางหน้าจอนอกลงกับพื้นผิวด้านล่าง ก็ไม่ต้องกังวลครับเพราะจอแสดงผลด้านนอกและแผงด้านหลังใช้กระจกกันรอย Gorilla Glass Victus+ ที่แข็งแกร่ง ดังนั้นสามารถมั่นใจได้เลยว่าการใช้งานดังกล่าวจะไม่ทำให้สมาร์ทโฟนเกิดรอยครับ

และด้วยกระจกแบบ UTG หรือ Ultra-Thin Glass ที่ด้านในทำให้ Samsung Galaxy Z Fold4 สามารถรองรับการใช้งานปากกาสไตลัส S-Pen ได้ครับ แต่จะต้องเป็นสไตลัสสำหรับรุ่นนี้เท่านั้น ไม่สามารถใช้ S-Pen กับสมาร์ทโฟนสไตล์ Note-Series มาใช้ได้ และจะมีการแจ้งเตือนเมื่อคุณนำสไตลัสที่ไม่เข้ากันกับรุ่นนี้มาใช้ด้วย โดยสไตลัสที่ใช้ได้จะมีชื่อว่า S Pen Fold Edition และน่าเสียดายที่ยังไม่สามารถใส่เก็บไว้ได้กับตัวสมาร์ทโฟนครับ แต่ก็มีเคสพิเศษที่สามารถเก็บสไตลัสไว้กับมือถือ และแน่นอนว่าต้องซื้อแยกครับ

โดยกล้องหน้าบริเวณด้านในหน้าจอจะเป็นกล้องแบบ Under-Display Camera ครับ ซึ่งจะแสดงเป็นวงกลมสีดำเฉพาะเวลาถ่ายภาพเท่านั้น แต่เมื่อแสดงผลรูปแบบอื่นเช่น การดูหนัง ท่องเว็บ กระจกบริเวณเหนือกล้องจะสามารถแสดงสีสันให้ปกคลุมกล้องได้เนียนตาดีใช้ได้ครับ ทำให้ไม่รู้สึกว่ามีอะไรบนหน้าจอเวลาดูหนังดูซีรีย์นั่นเอง

และแม้ว่า Samsung Galaxy Z Fold4 จะมีดีไซน์ที่คลาสสิคเหมือนเดิม แต่ในปีนี้ตัวเครื่องสามารถกันน้ำได้แล้วครับ โดยสามารถกันน้ำได้ในระดับ IPX8 ทำให้สามารถดำน้ำได้ลึก 1.5 เมตรเป็นเวลา 30 นาทีเลยทีเดียว ในส่วนของบานพับยังมีการออกแบบใหม่ ที่ช่วยให้การออกแบบสามารถทำได้บางลง และน้ำหนักเบาลง รวมถึงซัมซุงยังบอกว่าช่วยเพิ่มความคงทนในการพับได้อีกด้วย

บริเวณด้านหลังก็มีความคูลเช่นเคยครับ โดยมีพื้นผิวแบบด้าน ช่วยการเกิดรอยนิ้วมือได้ดีกว่าแบบผิวมัน และทำความสะอาดได้ง่ายด้วย แถมยังจับได้ง่ายไม่ลื่นหลุดมือได้ง่ายด้วยครับ โดยการวางกล้องยังคงใช้รูปแบบเดิม คือเรียงในแนวตั้ง และต่อท้ายด้วยไฟแฟลช LED ที่ดูสวยสะอาดตา

ในส่วนของหน้าจอด้านนอกก็มีการปรับ aspect ratio ด้วยครับ จากเดิมที่เป็นแบบ 25:9 ก็ปรับเป็น 23.1:9 ทำให้หน้าจอไม่ยาวเหมือนรุ่นก่อนหน้า ทำให้ใช้งานได้ง่ายและเข้ามือมากขึ้น และยังมีขอบหน้าจอที่บางลงอีกด้วย

ตำแหน่งของปุ่มต่างๆ ก็ยังคงอยู่ในตำแหน่งเดิมครับ โดยด้านขวาจะเป็นปุ่มควบคุมเสียง และปุ่ม Power ที่ใช้สำหรับสแกนนิ้วมือ และถาดใส่ซิมจะอยู่ฝั่งตรงข้าม ซึ่งรุ่นนี้รองรับ 2 ซิมครับ โดยใช้ nanoSIM และไม่รองรับ microSD Card

ไมโครโฟนของรุ่นนี้มีทั้งหมด 3 ตัวด้วยกันครับ โดยวางอยู่ด้านล่างเป็นไมค์หลัก 1 ตัว และด้านบนอีก 3 ตัว ส่วนด้านล่างยังมีพอร์ต USB-C สำหรับชาร์จและโอนถ่ายข้อมูล

ขนาดของตัวเครื่องจะอยู่ที่ 155.1x67.1x14.2-15.8 มม.เมื่อพับหน้าจอ ซึ่งเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน จะมีความสั้นลง 3 มม. และบางลง 0.2 มม. เช่นเดียวกับน้ำหนักที่จากเดิมหนัก 271 กรัม ก็ปรับลดลงมาเหลือ 263 กรัม และขนาดเมื่อกางหน้าจอออกจะอยู่ที่ 155.1x130.1x6.3 มม. และมีตัวเครื่องกว้างกว่ารุ่นเดิม 2 มม.

Performance & Features

ต่อไปมาดูด้านประสิทธิภาพการใช้งาน และประสบการณ์การใช้งานเจ้า Samsung Galaxy Z Fold4 กันดีกว่าครับ โดยรุ่นนี้จะใช้ระบบปฏิบัติการ Android 12 คู่กับ One UI 4 ด้านบน ซึ่ง UI บนสมาร์ทโฟนรุ่นนี้เป็นเวอร์ชั่นพิเศษที่ Google จับมือร่วมกันพัฒนาคู่กับ Samsung และเปิดตัวไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา โดยในเวอร์ชั่นนี้จะเป็นเวอร์ชั่นที่ 3 แล้ว ทำให้ยิ่งเหมาะและลงตัวกับสมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้แบบนี้มากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตามหากคุณใช้งานมาก่อนกับ Z Fold3 ก็ไม่ต้องตกใจว่าจะใช้ไม่ได้นะครับ เพราะบน Z Fold4 โดยรวมก็ยังคงใช้ง่าย ไม่ต่างจากเดิมเท่าใดนัก และในรุ่นนี้จะมาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่หลายอย่าง ยกตัวอย่างเช่นฟีเจอร์ที่เราเห็นได้ก่อนตั้งแต่ยังไม่กางโทรศัพท์ออก นั่นก็คือหน้าจอแบบเปิดตลอด หรือ Always-on Display นั่นเอง ซึ่งจริงๆ ก็รองรับทั้งหน้าจอด้านนอกและด้านในนะครับ โดยหากต้องการเปิดใช้งานก็จะต้องไปที่ Settings เช่นเดียวกับการปรับ refresh rate หรือความสว่างเป็นต้น

การแสดงผลก็ถือว่าทำได้สวยงามสไตล์ Samsung อยู่แล้วครับ อย่างเช่นการแสดงผล Wallpaper ก็จะทำงานประสานการทั้งหน้าจอด้านในและด้านนอก รวมถึงการตั้งค่าการแสดงผลแอปหรือ Widgets ต่างๆ ก็สามารถปรับได้หลากหลาย ตามสไตล์ที่เราชอบเลยครับ และแน่นอนว่าหน้าจอใหญ่ขนาดนี้ ยิ่งทำให้การใช้งานหลายแอปพร้อมกันบนหน้าจอทำได้สวยงาม ดูง่าย สบายตามากขึ้นด้วย หรือจะให้แสดงแอปเป็น Pop-up หน้าจอเล็กๆ ลอยบนหน้าจอก็ได้เช่นกัน

และนอกจากจะแสดงแอปได้หลากหลายแล้ว ในแอปที่รองรับคุณยังสามารถลากคอนเท้นต์ เช่น ข้อความหรือรูปภาพจากแอปหนึ่งไปยังอีกแอปหนึ่งได้อย่างไร้รอยต่อ ช่วยส่งเสริมด้านการทำงาน multi-tasking ให้คูลขึ้นไปอีก และอย่าลืมว่ารุ่นนี้ยังรองรับ Samsung Dex ที่ให้คุณสามารถใช้ Samsung Galaxy Z Fold4 คล้ายเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์แล้วทำงานบนหน้าจอใหญ่ได้ ให้ประสบการณ์คล้ายกับทำงานบน PC ได้อีกด้วย

รวมถึงสำหรับบางแอปพลิเคชัน ยังรองรับการในทำงานที่เรียกว่า Flex Mode หรือ Flex View ที่ให้คุณแบ่งหน้าจอออกเป็น 2 ฝั่งเมื่อพับหน้าจอระหว่าง 75-115 องศา แล้วทำงานสอดประสานกันอย่างลงตัว เช่น ฝั่งบนแสดงคลิป YouTube และจอล่างเป็นตัวควบคุมการเล่นคลิป หรือจอบนแสดงแผนที่ Google Maps และจอล่างแสดงการควบคุมเป็นต้น ตรงนี้ก็ถือว่าให้ประสบการณ์การใช้งานที่แปลกใหม่ แต่มีประโยชน์มากครับ

Flex View ยังเหมาะกับใช้งานกล้องถ่ายภาพครับ โดยหน้าจอบนใช้งานเป็น View Finder และด้านล่างจะเป็นการปรับตั้งค่าโหมดกล้องต่างๆ ทำให้เราแสดงเครื่องมือควบคุมได้มากขึ้น สายครีเอเตอร์น่าจะชอบกันครับ

ส่วนด้านประสิทธิภาพการใช้งาน Samsung Galaxy Z Fold4 มาพร้อมชิปเซ็ตแรงเหลือรับประทานอย่าง Snapdragon 8+ Gen 1 ชิปเรือธงตัวล่าสุดของ Qualcomm และไม่มีเวอร์ชั่้น Exynos แต่อย่างใด ขายเวอร์ชั่นเดียวทั่วโลก ดังนั้นด้านประสิทธิภาพก็ไม่ต้องห่วง เร็ว แรง ทะลุนรก แน่นอน โดยจะทำงานร่วมกับ RAM 12GB และหน่วยความจำ 256GB สำหรับเครื่องที่เรารีวิว และยังมีเวอร์ชั่น 512GB และ 1TB ให้เลือกอีกด้วย

โดยนอกจากผลการทดสอบ Benchmark ด้านล่างแล้ว จากการทดสอบประสบการณ์การเล่นเกมชั้นนำอย่าง RoV รุ่นนี้ก็แทบไม่ต้องสืบเลยครับว่าแรง ลื่น ชิล แน่นอน แต่หน้าจออาจจะมีสัดส่วนที่แคบลงสักหน่อย แต่ก็จอใหญ่ เล่นเข้ามือดีอยู่ครับ หรือถ้าไม่ชอบจอในใหญ่ๆ ก็สามารถเล่นได้ด้วยจอด้านนอกคล้ายกับการเล่นบนมือถือสัดส่วนทั่วไปได้เช่นกัน เรื่องความแรงหมดห่วงเลย ใช้ยาว

ส่วนด้านแบตเตอรี่ Samsung Galaxy Z Fold4 ให้แบตเตอรี่มาที่ 4400mAh โดยแบ่งออกเป็น 2 cells เช่นเคยครับ สำหรับการทดสอบใช้งานทั่วไป เล่นเกมบ้าง ดูหนังฟังเพลงบ้าง เช็คอีเมล ท่องเว็บ เล่นโซเชียล แบตสามารถยืนระยะตลอดวันสบายครับ หรือจะเป็นการทดสอบเปิดคลิปยาวๆ ก็สามารถใช้ได้อยู่ราวๆ 14 ชม. ถือว่าทำได้ดีครับ

และสำหรับการชาร์จเร็ว รุ่นนี้รองรับที่ 25W ครับ ซึ่งเมื่อเทียบกับคู่แข่งเรือธงอื่นๆ อาจดูเป็นรองบ้าง แต่การชาร์จ 0-100% ก็ใช้เวลาอยู่ที่ราวๆ 1 ชม. 20 นาที ก็ถือว่าไม่ได้แย่อะไรครับ และสามารถชาร์จ 0-50% ได้ใน 30 นาที แต่อย่างไรก็ตาม ในกล่องไม่แถมที่ชาร์จมาให้นะครับ ต้องซื้อแยกเอง และนอกจากนี้โทรศัพท์ยังรองรับการชาร์จไร้สายที่ความเร็ว 15W และ reverse charging ที่ 4.5W อีกด้วย

ส่วนด้านระบบเสียงของ Samsung Galaxy Z Fold4 รุ่นนี้จะมีลำโพง 2 ตัวเช่นเดียวกับ Fold3 ครับ โดยตัวหลักจะอยู่ด้านล่าง และตัวรองจะอยู่บริเวณหูฟังที่เราใช้สนทนาโทรศัพท์นั่นเอง ส่วนคุณภาพเสียงเมื่อดูหนังและฟังเพลง คุณภาพเสียงอยู่ในระดับดีมากครับ ให้เสียงที่ดัง คมชัด เสียงมีน้ำหนักและมิติดีกว่าสมาร์ทโฟนทั่วไป เรียกว่าดีในระดับแท็บเล็ตเลยทีเดียว (จริงๆ มันก็ใช้เป็นแท็บเล็ตได้แหละเนอะ) เอาว่าใครหาอุปกรณ์เพื่อความบันเทิง รุ่นนี้น่าจะตอบโจทย์ได้ดีทีเดียว

Photography

และอีกหนึ่งจุดเด่นของ Samsung Galaxy Z Fold4 คือด้านการถ่ายภาพครับ สำหรับในสภาพแสงกลางวัน กล้อง 50MP ของรุ่นนี้ทำได้ยอดเยี่ยมมากทีเดียวครับ สีสันโดดเด้งสุดๆ มีการให้ contrast ที่สวยงามสมกับเป็นกล้องระดับพรีเมี่ยมโฟน และทำได้ดีทั้งกล้อง Ultrawide และ Telephoto

ในขณะที่การถ่ายภาพตอนกลางคืนหรือที่แสงน้อย Night Mode ของ Samsung Galaxy Z Fold4 ก็ยังทำได้อย่างดีมากครับ โดยมี dynamic range ที่ดี เก็บรายละเอียดของแสงและเงาได้อย่างลงตัว รวมถึงให้ white balance ที่ค่อนข้างแม่นยำในที่สภาพแสงที่แตกต่าง แต่ยังพบ noise บ้างในบริเวณเงามืดเล็กน้อย

และที่น่าสนใจอีกอย่างของรุ่นนี้คือ Portrait Mode ครับ โดยในโหมดนี้เราจะสามารถซูมได้ 2 ระดับ คือ 1x และ 3x ซึ่งเราแนะนำให้ใช้ 3x และอยู่ในระดับที่เหมาะสม จะได้ภาพแบบและพื้นหลังที่แยกกันอย่างสวยงาม ชัดเจน และมีมิติที่ดีมากครับ

ส่วนการเซลฟี่ก็สามารถเลือกเป็นแบบธรรมดา และแบบมุมกว้างพิเศษสำหรับถ่ายเซลฟี่หลายคนได้ คุณภาพก็ถือว่าค่อนข้างดีมากครับ มีโหมด Portrait ให้เบลอฉากหลังได้สวย และแม่นยำเช่นกัน

ต่อไปมาดูในส่วนของการบันทึกวีดีโอกันบ้าง โดยในรุ่นนี้รองรับการบันทึกวีดีโอที่ความละเอียดระดับสูง 8K ได้แล้ว แต่ frame rate อยู่ที่ 24fps ในตอนนี้ ในขณะที่ความละเอียดรองลงมาอย่าง 4K ทำได้ที่ 30fps และ 60fps สำหรับกล้องหลัก และกล้องเทเล ในขณะที่กล้อง Ultrawide ทำได้ที่ 4K@30fps

ในขณะที่กล้องเซลฟี่ด้านในทำได้ที่ Full HD 30fps และ 60fps แต่ก็ไม่แน่ใจว่าคุณจะกางหน้าจอแล้วใช้กล้องด้านในนี้ถ่ายเซลฟี่วีดีโอทำไม ในเมื่อใช้กล้องนอกน่าจะง่ายกว่าครับ โดยในส่วนของระบบกันสั่นจะสามารถใช้งานได้กับกล้องทุกโหมดในทุกกล้องถ่ายภาพ และสามารถบันทึกในแบบ h.265 codec ได้ และบันทึกเสียงได้ที่ stereo 256kbps โดยคุณภาพของการถ่ายวีดีโอก็ทำได้ยอดเยี่ยมตามสไตล์ Samsung อยู่แล้วครับ

ลองชมตัวอย่างภาพถ่ายด้านล่างนี้เลยครับ

Conclusion

ถ้าถามว่า Samsung Galaxy Z Fold4 เครื่องนี้เหมาะสมกับใคร? ก็น่าจะเหมาะกับคนที่มองหาสมาร์ทโฟนหน้าจอนวัตกรรมใหม่ที่พับได้ มีตัวเครื่องที่สวยหรูดูพรีเมี่ยมและให้ความทนทานที่เหนือกว่า สามารถกันน้ำได้ มาพร้อมหน้าจอที่สวยงาม แถมสว่างมากกว่าคู่แข่งในตลาดเดียวกัน แบตอึด และมีฟีเจอร์ฉลาดสไตล์ Multi-Tasking ฉลาดๆ บนหน้าจอขนาดใหญ่ แถมยังรองรับการขีดเขียนด้วยสไตลัส S-Pen และที่สำคัญมีสเปคที่เร็วแรง ใช้งานได้จริง ไม่ใช่แค่ดีไซน์สวย แถมยังมีกล้องถ่ายภาพที่ยอดเยี่ยม ถ้าทั้งหมดนี้คือความต้องการของคุณ Samsung Galaxy Z Fold4 ก็แทบจะยืนหนึ่งไร้คู่แข่งเลยครับ

ส่วนจุดสังเกตก็อาจมีอยู่นิดหน่อยครับ อย่างเช่นการพับหน้าจอยังไม่สามารถพับได้เรียบสนิท คือยังมีช่องว่างอยู่เล็กน้อย แต่ก็ไม่ใช่แค่ข้อจำกัดเฉพาะรุ่นนี้ รุ่นอื่นที่จอพับได้ก็ยังมีเหมือนกัน และก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคสำหรับการใช้งานแต่อย่างใด รวมถึงความเร็วการชาร์จอาจช้าไปสักนิดเมื่อเทียบกับคู่แข่ง แต่ก็ถือว่าเร็วในระดับหนึ่งแล้ว

สำหรับการรีวิว Samsung Galaxy Z Fold4 ก็ต้องขอจบเพียงเท่านี้ครับ หากมีข้อผิดพลาดประการใดก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย จนกว่าจะพบกันใหม่ สวัสดีครับ :D

เช็คราคาปัจจุบัน Samsung Galaxy Z Fold4

>> https://shope.ee/6KU80WvAEy

>> https://s.lazada.co.th/l.bFai