Review : RPG Phone 8 Pro สมาร์ตโฟน Gaming ตัวจบอัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีมือถือและเกมที่ล้ำสมัยที่สุด กล้องหลังระดับโปรผสาน AI.

กลับมาพบกันอีกครั้งนะครับกับเรา TechxCite แน่นอนว่าถ้ามาพบกับเราคงไม่ธรรมดาแน่นอน และเชื่อว่าเกมเมอร์หลายๆคนคงรอคอยกับสมาร์ตโฟนเกมมิ่ง ROG Phone 8 กันอยู่แน่นอน หากใครที่กำลังมองหากสมาร์ตโฟนเกมมิ่งตัวจบที่เรียกว่ามาในรอบนี้มีดีรอบด้านระดับเรือธง ไม่ควรพลาดกับรุ่นนี้ ROG Phone 8 Pro Edition แน่นอนครับ

เริ่มกันด้วยที่อุปกรณ์ที่ให้มาในกล่องของ ROG Phone 8 Pro Edition

เปิดมาจะพบกับตัวเครื่อง ROG Phone 8 Pro Edition สีดำ Phantom Black
อะแดปเตอร์ชาร์จไว 65 W
สายดาต้า (แบบถักอย่างดี)
พัดลมระบายความร้อน AeroActive Cooler X แบบติดด้านหลัง
กระเป๋าขนาดมินิเอาไว้ใส่ AeroActive Cooler X
เคส Bumper กระบายความร้อนสีดำ โชว์ตัวเครื่องพร้อมไฟด้านหลัง
คู่มือและเข็มจิ้มถาดซิมสไตล์ ROG เท่ๆเช่นเคย

ข้อมูลพื้นฐานของสมาร์ตโฟน

หน้าจอ LTPO AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด 2,400 x 1,080 พิกเซล มีอัตราการรีเฟรชที่ปรับได้ถึง 120Hz แต่สามารถตั้งได้สูงสุดที่ 165Hz รองรับ HDR10+ ความสว่างสูงสุด 2500 nits กระจกป้องกันรอยขีดข่วนด้วย Corning Gorilla Glass Victus 2
ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 8 Gen 3 (4 nm) แบบแกนแยก 8 แกน (1x3.3 GHz Cortex-X4 & 5x3.2 GHz Cortex-A720 & 2x2.3 GHz Cortex-A520) พร้อม
GPU Adreno 750
หน่วยความจำ มีให้เลือก 3 รุ่น คือ 256GB 12GB RAM, 512GB 16GB RAM, และ 1TB 24GB RAM ใช้เทคโนโลยี UFS 4.0 และ LPDDR5x ไม่มีช่องใส่ microSD
กล้องหลัง 3 เลนส์ คือ 50 MP, f/1.9, 24mm (wide), 32 MP, (telephoto), 3x optical zoom, และ 13 MP, f/2.2, 13mm, 120˚ (ultrawide) รองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุดถึง 8K@24fps
กล้องหน้า แบบเจาะรูความละเอียด 32 MP, f/2.5, 29mm (wide) รองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุด 1080p@30fps พร้อมโหมด Super Night, แฟลช LED ที่ด้านหลัง
แบตเตอรี่ Li-Po 5500 mAh รองรับการชาร์จเร็วแบบ ROG HyperCharge 65 Watt และรองรับการชาร์จไร้สายตามมาตรฐาน Qi 1.3 ที่กำลังไฟสูงสุด 15 Watt
รองรับ Wi-Fi 7, บลูทูธ 5.3, NFC, รองรับ 2 ซิม 5G
รับรองการกันน้ำและฝุ่นระดับ IP68
ระบบปฏิบัติการ Android 14 / ROG UI

การออกแบบและวัสดุ รูปร่าง ขนาด น้ำหนัก

ROG Phone 8 Pro Edition มีรูปร่างและดีไซน์ที่คล้ายกับรุ่นก่อนหน้าอยู่แต่มีการลดขอบลงเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความกระทัดลัดเข้าไป มีโลโก้ ROG พร้อม AniMe Vision ไฟ Mini-LED สีขาวกว่า 341 ดวง เรียงตัวกันแบบ dot matrix มีลูกเล่นไฟมากกว่า 20 แบบให้ได้ลองเล่นกันตามการตั้งค่าใน (สำหรับตัว Pro Edition จะสามารถเป็นรูปแบบไฟด้านหลังได้ด้วย แต่ไม่สามารถเปลี่ยนสีได้) แน่นอนว่ายังคงจุดเด่นอย่าง Gaming triggers ที่สามารถกดได้ด้วยความดันต่าง ๆ เอาไว้อยู่ด้วย

ตัวเครื่องมีขนาด 163.8 x 76.8 x 8.9 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 225 กรัมเบาลงกว่าเดิม มีผิวสัมผัสแบบด้าน มีถาดซิมอยู่บริเวณด้านล่าง รูหูฟังและช่องชาร์จก็ด้วย

แน่นอนว่ายังคงไว้ซึ่งช่องชาร์จด้านข้างให้เกมเมอร์เช่นเคย และเอาไว้ใช้งานกับ AeroActive Cooler X ด้วย

ประสิทธิภาพการใช้งาน

ROG Phone 8 Pro Edition มาพร้อมกับ Android 14 ใหม่ล่าสุด มากไปด้วยลูกเล่นและความสเถียร ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 8 Gen 3 เป็นชิประดับเรือธง ที่ใช้เทคโนโลยี 4 nm ความเร็ว 3.3GHz ใหม่ล่าสุดจากทาง Qualcomm แล้วตอนนี้ พร้อมรีดประสิทธิภาพด้วยซอฟต์แวร์เอกสิทธิ์เฉพาะของ ROG Phone อย่าง Armoury Crate และด้วยความความที่แรมมีมากถึง 24GB LPDDR5X 4800MHz และรอมความเร็วสูงแบบ UFS 4.0 ที่ใช้เทคโนโลยี UFS 4.0 ที่เร็วกว่า UFS 3.1 ถึง 2 เท่า ทำให้มีคะแนนในการทดสอบได้สูงกว่า Snapdragon 8 Gen 2 ใน ROG Phone 7 Ultimate มากถึง 30%

ในเรื่องของหน่วยความจำนั้นตัว ROG Phone 8 Pro Edition มีให้ใช้จุกๆอยู่ที่ 1TB เลย แต่ใส่ SD Card เสริมเพิ่มไม่ได้ แต่เอาจริงๆ 1TB คือจะใช้ไม่หมดแล้ว ยิ่งสายเกมเมอร์จริงๆคือจะโหลดไว้ในเครื่องสัก 20 เกมก็คงไม่มีปัญหาอะไรแน่นอนครับ

ส่วนของจอแสดงผล ROG Phone 8 Pro Edition เป็นมือถือเกมมิ่งที่มีจอแสดงผลแบบ AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด 2,400 x 1,080 พิกเซล รองรับรีเฟรชเรทสูงถึง 165Hz และมากับ HDR10+ ให้ภาพสีสันสดใส คมชัด และลื่นไหล จอแสดงผลของ ROG Phone 8 Pro Edition ยังมีความเร็วในการตอบสนองต่อการสัมผัสสูงถึง 720Hz ทำให้ตอบสนองต่อการสัมผัสได้เร็วกว่าโทรศัพท์รุ่นอื่นๆ มาก เพราะนี้แหละถึงเป็นมือถือเกมมิ่งที่ไม่ควรมองข้ามจริงๆ รองรับการสัมผัสขณะสวมถุงมือ แถมยังมีความสว่างสูงถึง 2500 nits (จากเดิม 1,500 นิต) ทำให้สามารถใช้งานได้ในที่ที่มีแสงจ้าจัดๆ นอกจากนี้ยังมีการป้องกันด้วยกระจก Corning Gorilla Glass Victus 2 ที่ทนทานต่อการขีดข่วนอีกด้วย

การเล่นเกม

และแน่นอนว่าสำหรับมือถือเกมมิ่งตัวแรงอย่าง ROG Phone 8 Pro Edition คงไม่พูดถึงการเล่นเกมไม่ได้ ซึ่งทาง ASUS เองได้ซ่อนลูกเล่นเกี่ยวกับความเป็นมือถือสำหรับเล่นเกม โดยการใส่เกมมาให้เล่นตอนแกะกล่องครั้งแรก ซึ่งผู้ใช้งานต้องเสียบตัวเครื่องเข้ากับฝากล่องที่เปิดออกมา เพื่อเข้าสู่โหมดลับของเกมพิเศษนั่นเอง ตัวเกมจะเป็นเกมแนว Shotting ขับยานยิงศัตรู สนุกมากๆ ถือเป็น Gimmick เล็กๆน้อยๆที่ถูกใส่มาใน ROG Phone 8 Pro Edtition

ส่วนการเล่นเกมอื่นๆ ทางเราได้ลองเล่นเกมยอดฮิตไป 3 เกมเรียกได้ว่าประทับใจเอามากๆ จะเป็นยังไงมาลองดูกันครับ

สำหรับเกมแรกเกมยอดฮิตอย่าง Rov ไม่มีอะไรที่ต้องน่ากังวลเลย หลังจากที่เปิดโหมดรีดประสิทธิภาพอย่างโหมด X ที่ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม บวกกับ AeroActive Cooler X พัดลมระบายความร้อนแบบติดตั้งที่ด้านหลัง เล่นยาวๆไปเลยมองไม่เห็นถึงความแลคและการหน่วงสักนิดเดียว สีตัวเกมคมชัด ลื่นไหลมากๆ เก็บ Win ได้รัวๆ

สำหรับเรื่องความร้อนนั้นทั้งๆที่ไม่ได้เล่นห้องแอร์แต่ AeroActive Cooler X ทำได้ยอดเยี่ยมเลยความร้อนน้อยสุดๆ นิ้วสัมผัสไม่รู้สึกถึงความร้อนแต่ถ้าเอาหลังมือทาบดูถึงรู้สึกอุ่นนิดๆ นิดเดียวเท่านั้น แต่สิ่งที่น่าเสียดายที่ Rov รองรับที่ 60FPS เท่านั้น ไม่งั้นลื่นหัวแตกกว่านี้ครับ

สำหรับเกมต่อมาเกมนี้เป็นเกมยอดฮิตและค่อนข้างที่จะกินสเปกอยู่นั้นก็คือ Genshin impact ภาพออกมาจัดว่าสวยเทียบเท่า PC ไปแล้วปรับสุดทุกอย่าง FPS ยังวิ่งเต็ม สิ่งที่ว้าวคือยังมี X Sense 2.0 ซึ่งเป็นระบบจดจำรูปแบบ AI ตรวจจับเหตุการณ์อัตโนมัติ อย่างเช่นหากถึงเวลาที่เราควรหยิบไอเทมมันก็จะหยิบให้โดยอัตโนมัติ กรอฉากคัตซีนให้ก็ได้ การรันล็อคก็ทำได้ เกมเมอร์ถูกใจสิ่งนี้แน่นอน ซึ่งเป็นที่น่าเสียดาย Genshin impact ในมือถือก็ยังรันสูงสุดอยู่ที่ 60FPS อยู่ดี

เกมต่อไปที่ได้ทดสอบอีกเกมก็ยอดฮิตไม่แพ้กันอย่าง Pubg บอกเลยว่าถ้ามี ROG Phone 8 Pro Edition บวกกับเจ้า AeroActive Cooler X เรียกได้ว่าโกงสุดๆ เพราะด้วยปุ่มเกม FPS ในมือถือที่เยอะ ปัญหากดไม่ทันคนอื่นเขาจะหมดไป เพราะ ROG Phone 8 Pro Edition มีฟังชั่นที่เรียกว่า Gaming triggers หรือ AirTriggers ที่รองรับท่าทางที่หลากหลายอย่าง Dual Action, Press and Lift และการเล็งแบบ Gyroscope ที่สามารถกดข้างๆเครื่องได้ แต่ต้องตั้งค่าก่อนผ่าน Game Gemie

จากนั้นเข้าไปเลือกปุ่มในเกมว่าจะใช้ L,R บริเวณไหน และลากไปใส่ให้ตรงกับปุ่มในเกมก็ถือเป็นว่าเสร็จสิ้น ในส่วนของกราฟฟิกภาพของ Pubg ที่ได้ลองปรับสุดไปนั้นก็บอกได้เลยว่าไม่ได้มีปัญหาใดๆจริงๆ FPS วิ่งเต็มภาพปรับสุดรายละเอียดชัดเจนดี ภาพแจ่มๆ ลากหัวคมๆครับ

นอกจากนี้ยังสามารถปรับแต่งโหมดประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องได้ โดย ROG Phone 8 Pro Edtionมีโหมดปรับความแรงและประสิทธิภาพการทำงานแบบที่เรียกว่าเต็ม Max โหมดนี้มีชื่อว่า X Mode จะทำการเร่งประสิทธิภาพ CPU การใช้อัตรารีเฟรชหน้าจอสูงสุด และรันการทำงานของเครื่องให้เหมาะกับการเล่นเกม แต่โหมดนี้จะกินพลังงานแบตเตอรี่มาก ถ้าไม่ได้เล่นเกม ก็สามารถปรับเป็นโหมดอื่นได้เพื่อประหยัดพลังงาน

กล้องที่ถูกอัปเกรดขึ้น

ROG Phone 8 Pro Edition เป็นโทรศัพท์เกมมิ่งรุ่นใหม่ล่าสุดจาก ASUS ที่มีการปรับเปลี่ยนดีไซน์ของกล้องหลังมาใหม่ โดยมีกล้องหลัง 3 ตัวที่อยู่บนฐาน 5 เหลี่ยมที่ถูกออกแบบมาใหม่และแฟลชอีกหนึ่งตัว ให้ความรู้สึกดูเท่มากขึ้นเพราะการวางกล้องแบบนี้ไม่คล้ายเจ้าไหนเลยในตลาดเรือธง แถมยังใส่ Ai และอัลกอริทึมในการประมวลผลซึ่งจะเข้ามาช่วยผสานให้ภาพที่ถูกถ่ายออกมานั้นสวยและดูมือโปรมากขึ้น ดุจเอามือถือเรือธงกล้องเทพๆถ่ายออกมาเลย

ในส่วนของรายละเอียดกล้องจะประกอบด้วยกล้องหลักเซนเซอร์ Sony IMX890 พร้อมระบบกันสั่นแบบ OIS Hybrid Gimbal Stabilizer 3.0 แบบ 6 แกน ความละเอียด 50MP เซ็นเซอร์ Sony 1/1.56 รูรับแสง f/1.9

กล้อง Ultrawide 13MP รูรับแสง f/2.2 มีมุมมองภาพที่ 120 องศาซึ่งได้รับการปรับเลนส์มาฟสามารถลดความเพี้ยนของภาพที่ถ่ายออกมาได้

และการอัพเกรดครั้งใหญ่คือกล้อง Telephoto 32MP (quad-pixel sensor) ที่มีออปติคอลซูม 3 เท่า และซูมได้สูงสุดถึง 30 เท่า ( แต่จะมีเฉพาะใน ROG Phone 8 Pro/8 Pro Edition) นี่กลายเป็นมือถือเกมมิ่งที่ถ่ายภาพสวยไปแล้ว

กล้องหน้า 32MP ใน ROG Phone 8 Pro Edtionมีขอบเขตการมองเห็นที่กว้างกว่าเดิมสามารถจับภาพวัตถุภายในขอบเขตการมองเห็น 90 องศา ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 73 องศา และเป็นแบบเจาะรูฝังใต้จอ ทำให้ดูทันสมัยเหมือนเรือธงรุ่นอื่นๆในตลาด

จากการได้ลองถ่ายภาพออกมาจากกล้องหลักของ ROG Phone 8 Pro Edition ถ่ายออกมาได้รายละเอียดภาพดีเยี่ยม โดยภาพมีความคมชัด สีสันสดใสเก็บสีสันได้แม่นยำ ไดนามิกเรนจ์กว้าง และสามารถถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดี ต่อให้เป็นมือใหม่ก็มีเทคโนโลยีกันสั่น 6 แกน Hybrid Gimbal Stabilizer 3.0 ที่ช่วยให้การถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอมีความนิ่ง ลดการสั่นไหวได้เยอะเลย

สำหรับโหมด Pro สำหรับผู้ชื่นชอบการถ่ายภาพ ก็ให้การควบคุมการตั้งค่าต่างๆ ด้วยตนเองทำออกมาได้ดีเลยเพราะสามารถปรับแต่งได้เยอะไม่ว่าจะเป็นความเร็วชัตเตอร์ ISO,EV,WB

โดยรวมแล้วระบบกล้องของ ROG Phone 8 Pro Edition ได้รับการปรับปรุงมามากจากรุ่นก่อน ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักเล่นเกมและผู้ชื่นชอบการถ่ายภาพไปด้วย

ระบบความบันเทิงจัดเต็มพร้อมการระบายความร้อนที่ยอดเยี่ยม

นอกจากกล้องที่ได้รับการปรับมาใหม่แล้ว อีกหนึ่งอย่างที่น่าสนใจไม่แพ้กันเลยก็คือ สุดยอดระบบเสียงที่ผสานการทำงานของ AI แถมได้มาด้วยลำโพงคู่สเตอริโอคุณภาพสูงที่ให้เสียงระดับ Hi-Res Audio ด้วยเทคโนโลยีเสียงจาก DIRAC VIRTUO มอบเสียงที่มีมิติโอบล้อมเหมือนอยู่ในโรงภาพยนตร์เลย ไม่ว่าจะฟังเพลง ดูหนัง หรือเล่นเกม ก็เต็มอิ่มด้วยประสบการณ์เสียงที่สมจริง

นอกจากนี้ลำโพงคู่สเตอริโอยังรองรับการเชื่อมต่อหูฟังแบบ 3.5mm/USB-C/Bluetooth ช่วยให้สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบาย ที่คงไม่บอกไม่ได้คงเป็นลำโพงคู่สเตอริโอที่ได้รับพลังของ AI เข้ามาช่วยในการตัดเสียงรบกวนแบบ Bi-Directional ในทุกการสื่อสาร ทำให้เสียงในการพูดคุยที่คมชัดสมบูรณ์แบบ

ROG Phone 8 Pro Edition อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีสุดๆ มีสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอมาให้ จะเลือกเป็นสแกนหน้าก็ยังได้ และนี่ยังเป็นมือถือเกมมิ่งเครื่องแรกที่ได้มาตรฐานการกันน้ำและฝุ่นระดับ IP68 เครื่องแรกของโลก โดยสามารถจมอยู่ในน้ำจืดได้ลึกถึง 1.5 เมตร เป็นเวลาประมาณ 30 นาที

สำหรับระบบชาร์จเร็วนั้นรองรับการชาร์จเร็วแบบ ROG HyperCharge 65 Watt สามารถชาร์จจาก 0 – 100% ได้ในระยะเวลาเพียง 39 นาที และยังรองรับการชาร์จไร้สายตามมาตรฐาน Qi 1.3 ที่กำลังไฟสูงสุด 15 Watt มาพร้อมกับ AeroActive Cooler X ที่มีขนาดเล็กลง เวลาเสียบกับตัวเครื่องเวลาใช้งานก็มีไฟ RGB เท่ๆอยู่ด้านหลัง แน่นอนว่าปุ่ม R,L สามารถตั้งค่าได้ใน Game Gemie เลยครับ

และหากใครที่กำลังกังวลว่ามือถือเกมมิ่งที่แรงขนาดนี้จะมีความร้อนมากน้อยแค่ไหน ซึ่งต้องบอกเลยว่า ROG Phone 8 Pro Editionมีการระบายความร้อนที่อัปเกรดขึ้นไปจากเดิมด้วยเทคโนโลยีใหม่ Rapid-cooling Conductor ที่ช่วยดึงความร้อนออกจากตัวชิปประมวลผลได้ดีขึ้นถึง 20% ส่งต่อไปที่โบรอนไนไตรด์, Vapor Chamber, และแผ่นแกรไฟต์ เพื่อส่งผ่านความร้อนออกมาด้านนอกให้เร็วที่สุด

นอกจากเทคโนโลยี Rapid-cooling Conductor แล้ว ได้ลองใช้ร่วมกับ AeroActive Cooler X พัดลมระบายความร้อนแบบติดตั้งที่ด้านหลังของตัวเครื่องที่มีประสิทธิภาพในการระบายความร้อนดีขึ้นถึง 30% ก็จะทำให้เย็นมากๆ เคยลองจับตรงที่ดูดความร้อนออกมาช่วงแรกๆ ก็คือใช่เลย เย็นจริง

การใช้งานในชีวิตประจำวัน

ในเรื่องของแบตเตอรี่หากได้ใช้งานในโหมดไดนามิกหรือโหมดประหยัดพลังงานบอกได้เลยว่าแบตเหลือๆ ถึงแม้จะแบตเตอรี่จะมีขนาด 5,500 mAh ซึ่งน้อยกว่ารุ่นก่อนนิดหน่อย แต่หากนับระยะเวลาการใช้งานถือว่ามีระยะการใช้งานพอๆกัน นั้นเท่ากับว่า ROG Phone 8 Editionมีความสามารถในการประหยัดแบตที่ดีขึ้น ระยะเวลาการใช้งานเฉลี่ยนั้นจะขึ้นอยู่กับโหมดที่เราเปิดด้วยถ้าเล่นเพียงโซเชียลทั่วไป Facebook , IG , X , TikTok ไม่รู้จะเล่นยังไงให้หมดเลยครับ ลองๆจับเวลาดูในโหมดปกติจะอยู่ที่ 15-17 ชั่วโมงในการใช้งาน แต่เวลาชาร์จดันใช้เวลาเพียง 39 นาทีเท่านั้น แบตเตอรี่ไม่ธรรมดาเลยครับ

แต่ในโหมด X จะกินไฟขึ้นมาหน่อย เพราะถูกรีดประสิทธิภาพของเครื่องออกมา โดยจะทำให้หน้าจอรันที่ 165Hz และเร่งอัตราการตอบสนองต่อการสัมผัส ถ้าเปิดโหมดนี้เล่นเกมเป็นเวลา แบบฟิลเวลาว่าง เวลาพักเที่ยงแล้วเปลี่ยนกลับเป็นไดนามิกแบตก็เพียงพอต่อการใช้งานในหนึ่งวันพอดี แต่ตอนเปิดโหมดนี้เวลาอยู่ในเกมมันจะปิดการแจ้งเตือนนะครับระวังเพื่อนทักมาไม่เห็นนะ ซึ่งเป็นคนที่เล่นเกมจริงๆจังก็คงเหมาะมากจริงๆ เพราะที่กล่าวไปจริงๆมีฟังก์ชันสำหรับเกมเมอร์เยอะมากตั้งแต่โหมด X ที่ช่วยรีดประสิทธิภาพของเครื่อง แล้วก็ Game Gemie ที่ให้เราปรับแต่งเกมได้อย่างอิสระครบครัน จะอัดจอระหว่างเล่นก็ทำได้,ปรับเฟรชเรทแบบทันใจ,เปิด X Sense ,เปิดมาโคร ,ตั้ง AirTriggers หรือ จะเปิดเกมใช้งานเป็น PiP ก็ได้ ชอบมากอันนี้

ผลการทดสอบประสิทธิภาพ

ต้องบอกได้ว่าตัวเครื่องโหดมาก ในขณะที่ไม่ได้เปิดโหมด X อยู่แต่เวลาทดสอบประสิทธิภาพ เครื่องจะทำการเปิดโหมด X ให้เองอัตโนมัติเลยเพื่อรีดการทำงานแบบเต็มที่นั้นเอง

จุดเด่นที่น่าสนใจของ ROG Phone 8 Pro Edition

สเปกแรงมากๆ กล้องก็เกือบเทียบเท่าเรือธงกล้องเทพๆแล้ว เกมเมอร์ที่รักในการถ่ายรูปต้องจัด
กันน้ำกันฝุ่น IP68
เสียงดี แถมผสานการทำงานของ AI
แบตเตอรี่อึด ชาร์จเร็ว
AniMe Vision ไฟ Mini-LED สวยมาก ถ้าปิดไว้ก็ดูสุขุม เปิดก็ดูเป็นเกมเมอร์เท่ๆดี
ความสว่างของจอถูกอัปเกรดขึ้นมาก ใช้กลางแจ้งได้ไม่มีปัญหา รีเฟรชเรทเยอะ 165Hz สมูทตา
ดีไซน์ใหม่พร้อมขอบที่เพรียวบาง

ราคาจำหน่าย ROG Phone 8 Series:

ROG Phone 8 12/256GB (Phantom Black/Storm Grey): 29,990 บาท
ROG Phone 8 Pro 16/512 (Phantom Black): 37,990 บาท
ROG Phone 8 Pro Edition 24GB/1TB (Phantom Black) with AeroActive Cooler X in box: 47,990 บาท

AIS Promotion ราคาพิเศษเมื่อซื้อเครื่องพร้อมแพ็คเกจรายเดือนกับ AIS 5G ROG Phone 8 ราคาเริ่มต้นที่ 25,690.-*

ROG Phone 8 Pro ราคาเริ่มต้นที่ 33,690.-* และ ROG Phone 8 Pro Edition ราคาเริ่มต้นที่ 43,690.-*

*เงื่อนไขตามที่ AIS กำหนด อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: https://m.ais.co.th/epHZ4PpuY