Mark Gurman จาก Bloomberg รายงานยืนยันว่า Apple กำลังเตรียมพร้อมเปิดตัว iPhone Air 2 ในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2027 (ประมาณเดือนมีนาคม-พฤษภาคม) ซึ่งเป็นการเดินหน้าในโปรเจกต์สมาร์ทโฟนที่เน้นความบางเป็นพิเศษอย่างต่อเนื่อง โดยคาดการณ์ว่าอุปกรณ์รุ่นนี้จะเป็น iPhone รุ่นแรกที่ใช้ชิปเซ็ตที่ผลิตด้วยสถาปัตยกรรม 2 นาโนเมตร ซึ่งจะช่วยให้ประสิทธิภาพด้านแบตเตอรี่และความประหยัดพลังงานโดยรวมดีขึ้นอย่างก้าวกระโดด แม้จะมีรายงานขัดแย้งกันในช่วงต้นสัปดาห์ว่า iPhone Air 2 อาจถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนดเนื่องจากยอดขายรุ่นแรกไม่หวือหวา แต่รายงานล่าสุดยืนยันว่า Apple เพียงแค่เลื่อนการเปิดตัวจากฤดูใบไม้ร่วง 2026 เป็นฤดูใบไม้ผลิ 2027 เท่านั้น.

Gurman เน้นย้ำว่า Apple ไม่เคยมุ่งหวังให้ไลน์อัพ iPhone Air ต้องอัปเดตตามรอบประจำปีเหมือน iPhone รุ่นหลักอยู่แล้ว และการไม่ใช้ชื่อ "iPhone 17 Air" ก็เพื่อแยกความแตกต่างออกจากรุ่น Pro และรุ่นมาตรฐาน iPhone Air 2 คาดว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงดีไซน์ครั้งใหญ่ แต่จะเน้นการอัปเกรดแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยการปรับปรุงหลักจะอยู่ที่ อายุการใช้งานแบตเตอรี่ ซึ่งได้แรงขับเคลื่อนจากชิป 2nm ที่ประหยัดพลังงานมากขึ้น นอกจากนี้ Apple กำลังพิจารณาเพิ่มกล้องหลังตัวที่สองสำหรับภาพ Ultrawide ด้วย ถึงแม้ว่ารุ่นแรกจะถูกจัดวางอย่างโดดเด่นในงาน Keynote เดือนกันยายน แต่ยอดขายกลับไม่เป็นไปตามเป้าที่คาดไว้ (6-8% ของยอดขายรวม) เนื่องจาก iPhone Air มีความโดดเด่นในวงแคบ และมีข้อจำกัดด้านความทนทานของแบตเตอรี่, ประสิทธิภาพระบายความร้อน, และความสามารถของกล้อง เมื่อเทียบกับรุ่น Pro.
หมีเด้งวิเคราะห์ : iPhone Air—ห้องแล็บทดลอง 'ก่อนพับ' ของ Apple
ข่าวลือที่น่าสนใจที่สุดคือการที่ Apple ใช้ไลน์อัพ iPhone Air เป็น 'สนามทดสอบภายใน' สำหรับส่วนประกอบและการออกแบบที่จะนำไปใช้ใน iPhone แบบพับได้ (Foldable iPhone) ในอนาคต การที่ iPhone Air มีโครงสร้างและวัสดุที่คล้ายคลึงกับต้นแบบจอพับที่ Apple กำลังพัฒนาอยู่ แสดงให้เห็นว่า Apple ไม่ได้มอง iPhone Air เป็นผลิตภัณฑ์ที่ต้องทำกำไรสูงสุดเท่านั้น แต่เป็น ขั้นตอนเชิงกลยุทธ์ด้านวิศวกรรม เพื่อทดสอบห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) และกระบวนการผลิตวัสดุที่เน้นความบางเบาและแข็งแรงเป็นพิเศษก่อนจะนำไปใช้กับผลิตภัณฑ์ที่ซับซ้อนกว่าอย่างจอพับ การเลื่อนเปิดตัวไปเป็นปี 2027 เพื่อให้ได้ใช้ชิป 2 นาโนเมตร ก็เป็นการยืนยันว่า Apple ให้ความสำคัญกับ ประสิทธิภาพการจัดการพลังงาน และเทคโนโลยีการผลิตชิปขั้นสูงเป็นอันดับแรก ก่อนที่จะผลักดันดีไซน์บางเฉียบเข้าสู่ตลาดกระแสหลัก ซึ่งเป็นแนวทางการพัฒนาที่เน้นความสมบูรณ์แบบก่อนการปล่อยขายเสมอ
source: gizmochina