โลกของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ขึ้นชื่อเรื่องความเร็ว และไม่มีใครท้าทายผู้เล่นดั้งเดิมได้รุนแรงเท่ากับ Xiaomi ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีจากจีนที่โด่งดังเรื่องสมาร์ทโฟน ล่าสุด Xiaomi ได้ประกาศความสำเร็จครั้งใหญ่ด้วยการ ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าครบ 500,000 คัน นับเป็นก้าวที่น่าทึ่งเพราะพวกเขาใช้เวลาเพียง หนึ่งปีกับเจ็ดเดือน เท่านั้นหลังจากที่รถยนต์คันแรกออกจากสายพานการผลิตในเดือนมีนาคม 2024 ซึ่งถือเป็นหนึ่งในบริษัทที่เร็วที่สุดในโลกที่ทำสถิติเช่นนี้ได้ Xiaomi เข้าสู่ธุรกิจยานยนต์อย่างเป็นทางการตั้งแต่เดือนมีนาคม 2021 แต่การเปิดตัว SU7 รถยนต์ซีดานไฟฟ้าคือจุดที่ทำให้ธุรกิจพุ่งทะยาน โดย SU7 ถูกวางให้เป็นคู่แข่งโดยตรงกับซีดานไฟฟ้ารุ่นดัง และมีการขยายไลน์อัพด้วยการเปิดตัวรุ่น YU7 ตามมาในเดือนมิถุนายน.

สถิติการผลิต 500,000 คันเป็นเพียงครึ่งเดียวของเรื่องราว เพราะตัวเลขการส่งมอบจริง (Delivery) สำคัญกว่า โดยในปี 2024 ซึ่งเป็นปีแรกของการขาย Xiaomi ได้ส่งมอบรถยนต์ไปแล้ว 135,000 คัน และระหว่างเดือนมกราคมถึงตุลาคมปีนี้ บริษัทส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าไปแล้วถึง 315,376 คัน โดยเฉพาะในไตรมาสที่สามเพียงไตรมาสเดียว มีการส่งมอบสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 108,796 คัน ซึ่งเติบโตถึง 173.43% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และในเดือนล่าสุดมีการส่งมอบถึง 48,654 คัน Lei Jun ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Xiaomi ประกาศเป้าหมายใหม่ที่ท้าทายยิ่งกว่า โดยคาดการณ์ว่าจะส่งมอบรถยนต์รวมในปี 2025 ให้ได้เกิน 400,000 คัน ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายเดิมที่ 350,000 คัน และรถคันที่ 500,000 ที่ออกจากสายการผลิตก็จะถูกส่งมอบถึงมือลูกค้าภายในไม่กี่วัน แสดงให้เห็นว่าการผลิตและการขายดำเนินไปอย่างรวดเร็วคู่กัน.
การเปลี่ยนจากบริษัทโทรศัพท์สู่การเป็นผู้ผลิตรถยนต์นั้นใช้เงินลงทุนสูง แต่ความเสี่ยงนี้กำลังให้ผลตอบแทน ธุรกิจนวัตกรรมของ Xiaomi ซึ่งส่วนใหญ่คือธุรกิจ EV ได้ ทำกำไรเป็นครั้งแรก ในไตรมาสเดียว โดยในไตรมาสที่สาม ธุรกิจใหม่นี้มีกำไรสุทธิ 700 ล้านหยวน (ประมาณ 3,212 ล้านบาท) จากรายได้รวม 2.9 หมื่นล้านหยวน โดยมีรายได้จากรถยนต์ไฟฟ้าสูงถึง 2.83 หมื่นล้านหยวน พิสูจน์ว่าธุรกิจ EV กลายเป็นแหล่งรายได้ที่ใหญ่ที่สุดในส่วนนวัตกรรมของบริษัทแล้ว

หมีเด้งวิเคราะห์ : Xiaomi EV—ปรากฏการณ์ 'ความเร็ว' ที่ท้าทายยุคเก่า
ความสำเร็จของ Xiaomi ในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าครบ 500,000 คันในเวลาเพียง 1 ปี 7 เดือน และการทำกำไรครั้งแรกในธุรกิจ EV ด้วยรายได้กว่า 2.83 หมื่นล้านหยวนในไตรมาสเดียว ถือเป็น บทเรียนสำคัญที่สั่นสะเทือนวงการยานยนต์ทั่วโลก สิ่งนี้พิสูจน์ว่า การสร้างรถยนต์ไฟฟ้าคุณภาพสูงและมีความต้องการสูงไม่ได้จำกัดอยู่แค่แบรนด์รถยนต์ดั้งเดิมอีกต่อไป โดยเฉพาะการกำหนดเป้าหมายการส่งมอบปี 2025 ที่ 400,000 คัน สะท้อนถึงความมั่นใจและศักยภาพการผลิตที่มหาศาล อย่างไรก็ตาม แม้จะมีข่าวดีขนาดนี้ แต่ราคาหุ้นของ Xiaomi ในฮ่องกงกลับปรับตัวลง 2.22% และร่วงลง 33% ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา ซึ่งแสดงให้เห็นว่านักลงทุนยังคงมีความ กังวลต่อการแข่งขันที่ดุเดือด ในอุตสาหกรรม EV ของจีนโดยรวม รวมถึงความเสี่ยงในธุรกิจส่วนอื่นของบริษัท การทำสถิติใหม่และการทำกำไรได้เพียงครั้งเดียว อาจยังไม่เพียงพอต่อการสร้างความมั่นใจในระยะยาวให้กับตลาดที่กำลังคาดหวังผลกำไรที่ยั่งยืนในอนาคตอันใกล้
source: arenaev