Huawei ได้เปิดตัวซีรีส์เรือธง Mate 80 อย่างเป็นทางการในประเทศจีน ซึ่งนอกจากรุ่น Mate 80 และ Mate 80 Pro แล้ว ยังมีสองรุ่นยักษ์ใหญ่ที่น่าจับตามองคือ Mate 80 Pro Max และ Mate 80 RS Ultimate Design โดยทั้งสองรุ่นนี้มาพร้อมคุณสมบัติที่น่าทึ่ง ไม่ว่าจะเป็นกล้อง Telephoto คู่และแบตเตอรี่ 6,000mAh Mate 80 Pro Max มีดีไซน์คล้ายรุ่น Pro แต่มาพร้อมหน้าจอ OLED LTPO สองชั้นขนาด 6.9 นิ้ว อัตรารีเฟรช 120Hz และความสว่างสูงสุดเฉพาะจุดถึง 8,000 nits ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ตใหม่ล่าสุด Kirin 9030 Pro SoC คู่กับ RAM สูงสุด 16GB และพื้นที่เก็บข้อมูล 1TB โดยรันบน HarmonyOS 6 ที่มาพร้อมฟีเจอร์ AI ใหม่ๆ มากมาย.

ด้านการถ่ายภาพ Pro Max จัดเต็มด้วย กล้องหลังสี่ตัว ประกอบด้วยเซ็นเซอร์หลัก 50MP (พร้อมรูรับแสงปรับได้และ OIS), Ultrawide 40MP, กล้อง Macro Telephoto 50MP (รูรับแสง f/2.1 พร้อม OIS) และกล้อง Periscope Telephoto 50MP ที่ซูมแบบออปติคัล 6.2x (พร้อม OIS) ทั้งหมดนี้ได้รับการเสริมด้วยชิปประมวลผลภาพ Red Maple รุ่นที่ 2 ของ Huawei กล้องหน้า 13MP พร้อมเทคโนโลยี 3D Depth Sensing แบตเตอรี่มีความจุ 6,000mAh รองรับชาร์จเร็วมีสาย 100W และชาร์จไร้สาย 80W พร้อมมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68 + IP69 และรองรับการสื่อสารผ่านดาวเทียม (Satellite Communication) สำหรับรุ่น Mate 80 RS Ultimate Design นั้นมีดีไซน์ด้านหลังที่หรูหราเฉพาะตัวพร้อมกรอบไทเทเนียมและกระจก Kunlun Tempering Glass เจเนอเรชันที่ 3 แต่ใช้สเปกหลักเดียวกันกับ Pro Max ทุกประการ ยกเว้น RAM ที่ให้มาสูงถึง 20GB เป็นมาตรฐาน โดยมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 249 กรัม

หมีเด้งวิเคราะห์ : Huawei Mate 80 Series—การประกาศศักดา 'เรือธงที่ไม่มีใครเทียบ'
การเปิดตัว Mate 80 Pro Max และ RS Ultimate Design เป็นการประกาศศักดาของ Huawei ในการสร้าง "เรือธงที่ไม่มีใครเทียบได้" โดยเฉพาะในด้านเทคโนโลยีฮาร์ดแวร์ที่ไม่ต้องพึ่งพาใคร การใช้ชิป Kirin 9030 Pro ที่พัฒนาเอง, จอที่สว่างถึง 8,000 nits, กล้อง Telephoto คู่ (Macro Telephoto และ Periscope) และการใส่ RAM 20GB ในรุ่น RS สะท้อนให้เห็นว่า Huawei มุ่งมั่นที่จะก้าวข้ามขีดจำกัดของสมาร์ทโฟนทั่วไป กลยุทธ์การใส่กล้อง Telephoto คู่ (เน้นมาโคร/บุคคล และการซูมระยะไกล) ตอบโจทย์ความต้องการของช่างภาพมืออาชีพได้อย่างสมบูรณ์แบบ ขณะที่ฟีเจอร์อย่าง Satellite Communication และมาตรฐานกันน้ำ IP69 ตอกย้ำถึงการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและความทนทาน ซึ่งทำให้ราคาระดับพรีเมียมของรุ่น RS Ultimate Design (กว่า 60,000 บาท) ถูกมองว่าเป็นราคาสำหรับ "งานศิลปะทางเทคโนโลยี" ที่มาพร้อมประสบการณ์ใช้งานที่หาไม่ได้จากแบรนด์อื่น

source: gsmarena