Oppo ได้เพิ่มสมาชิกใหม่ในตระกูล A6 ด้วยการเปิดตัว Oppo A6x ซึ่งมาพร้อมกันถึงสองเวอร์ชันคือรุ่น 4G และ 5G ความแตกต่างที่เด่นชัดที่สุดของทั้งสองรุ่นคือชิปเซ็ต โดยรุ่น 4G (CPH2819) ขับเคลื่อนด้วย Snapdragon 685 SoC ส่วนรุ่น 5G (CPH2823) ใช้ชิป Dimensity 6300 SoC แต่สเปกส่วนใหญ่ของทั้งสองรุ่นนั้นเหมือนกัน
โดยมาพร้อมระบบปฏิบัติการ ColorOS 15 และหน้าจอ LCD ขนาด 6.75 นิ้ว HD+ 120Hz ที่สว่างถึง 1,125 nits พร้อมรองรับ GloveTouch (สัมผัสขณะสวมถุงมือ) ทั้งสองรุ่นติดตั้งกล้องหลัก 13MP, กล้องเซลฟี่ 5MP และมาพร้อมแบตเตอรี่ความจุใหญ่ 6,500mAh พร้อมรองรับการชาร์จย้อนกลับแบบมีสาย 5W.

ข้อแตกต่างที่สำคัญอีกประการคือรุ่น A6x 5G รองรับการชาร์จเร็ว 45W ขณะที่รุ่น 4G ไม่รองรับการชาร์จเร็ว นอกจากนี้ รุ่น 4G มีกล้องเสริมแบบขาวดำที่ด้านหลัง แต่ Oppo ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดกล้องหลังตัวที่สองของรุ่น 5G คุณสมบัติเด่นอื่นๆ ที่มีร่วมกันคือ เซ็นเซอร์ลายนิ้วมือด้านข้าง, พอร์ต USB-C, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. และมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP64 สำหรับราคาและการวางจำหน่ายนั้น Oppo A6x 4G มีให้เลือกสี Ice Blue และ Plum Purple โดยรุ่นเริ่มต้น (4GB/64GB) วางจำหน่ายในมาเลเซียที่ราคา RM399 (ประมาณ 3,020 บาท) ส่วนรุ่น Oppo A6x 5G มีสี Ice Blue และ Olive Green วางจำหน่ายในอินเดีย 3 รุ่น โดยมีราคาเริ่มต้นดังนี้
- Oppo A6x 5G (4GB/64GB) ราคา 12,499 รูปี (ประมาณ 5,500 บาท)
- Oppo A6x 5G (4GB/128GB) ราคา 13,499 รูปี (ประมาณ 5,940 บาท)
- Oppo A6x 5G (6GB/128GB) ราคา 14,999 รูปี (ประมาณ 6,600 บาท)

หมีเด้งวิเคราะห์ : Oppo A6x—กลยุทธ์ 'แบตอึด 5G คุ้มค่า' เพื่อตลาดเกิดใหม่
การเปิดตัว Oppo A6x ทั้งรุ่น 4G และ 5G ด้วยสเปกที่แตกต่างกันเล็กน้อยแต่มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 6,500mAh ร่วมกัน เป็นการตอกย้ำถึง กลยุทธ์การเน้น "อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนาน" ในตลาดสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นและระดับกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญสูง การที่รุ่น 5G มาพร้อมชิป Dimensity 6300 และชาร์จเร็ว 45W ในราคาเริ่มต้นเพียงประมาณ 5,500 บาท ถือเป็น ข้อเสนอที่คุ้มค่ามาก สำหรับผู้ที่ต้องการประสบการณ์ 5G และการชาร์จที่รวดเร็ว ในขณะที่รุ่น 4G ที่มีราคาถูกกว่ามากก็ยังคงมีแบตเตอรี่ใหญ่และจอ 120Hz ที่น่าสนใจ การแบ่งรุ่นตามชิปเซ็ตและคุณสมบัติการชาร์จนี้ ช่วยให้ Oppo สามารถ ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน ได้อย่างแม่นยำ โดยรุ่น 5G เน้นผู้ใช้ที่อัปเกรดเทคโนโลยี ส่วนรุ่น 4G เน้นผู้ใช้ที่ใส่ใจงบประมาณเป็นพิเศษ.
source: gsmarena