หลังจากปล่อยทีเซอร์และคลิปแกะกล่องออกมาเรียกน้ำย่อย ในที่สุด Oppo ก็ได้เปิดตัวแท็บเล็ตระดับกลาง-พรีเมียมรุ่นล่าสุด Oppo Pad Air5 อย่างเป็นทางการในประเทศจีนแล้ว! แท็บเล็ตรุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างความสมดุลระหว่างประสิทธิภาพ, ดีไซน์ และอายุการใช้งานแบตเตอรี่ ซึ่งมาพร้อมกับตัวเลือกการเชื่อมต่อครบครันทั้งแบบ Wi-Fi และ 5G เพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายของผู้ใช้ในปัจจุบัน

หัวใจสำคัญที่ขับเคลื่อน Pad Air5 คือชิปเซ็ตตัวใหม่ MediaTek Dimensity 7300-Ultra SoC ซึ่งทำงานร่วมกับหน่วยประมวลผลกราฟิก Mali-G615 MC2 พร้อมหน่วยความจำแบบ LPDDR5X RAM และพื้นที่เก็บข้อมูล UFS 3.1 ที่ให้ความเร็วในการอ่าน-เขียนสูง ซึ่งสเปกชุดนี้รับประกันได้ถึงประสิทธิภาพที่ราบรื่น ไม่ว่าจะใช้ทำงานหนักๆ เล่นเกม หรือสลับแอปไปมา นอกจากนี้หน้าจอแสดงผลก็ถือว่าโดดเด่นไม่แพ้กัน ด้วยพาเนล LCD ขนาด 12.1 นิ้ว ที่มีความละเอียดสูงถึง 2800x1980 พิกเซล และอัตรารีเฟรชเรท 120Hz พร้อมความสว่างสูงสุด 900 nits ทำให้ภาพคมชัดและลื่นไหลแม้ใช้งานกลางแจ้ง
สิ่งที่ทำให้ Pad Air5 น่าสนใจที่สุดคือเรื่องพลังงาน เพราะมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 10,050mAh ที่พร้อมให้คุณใช้งานได้ตลอดวันโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จ แต่ถึงแม้แบตจะใหญ่ การชาร์จก็ไม่ต้องรอนานนัก เพราะรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 33W Pad Air5 รันบนระบบปฏิบัติการ ColorOS 16 ตั้งแต่แกะกล่อง ซึ่งได้รับการอัปเกรดให้มีฟีเจอร์ AI มากมาย เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและการมัลติทาสก์ได้อย่างชาญฉลาด

Oppo นำเสนอ Pad Air5 ในสีสันที่น่าดึงดูดใจทั้ง Starlight Powder (ชมพูประกายดาว) และ Space Gray (เทาอวกาศ) และยังมีรุ่นพิเศษ Soft Light Edition ที่เคลือบสารป้องกันแสงสะท้อนบนหน้าจอ (Anti-Glare) ทำให้ใช้งานได้สบายตามากขึ้น เหมือนการเขียนบนกระดาษจริง โดยราคาเริ่มต้นของรุ่น Wi-Fi (8GB/128GB) อยู่ที่ CNY 1,899 (ประมาณ 8,380 บาท) ส่วนรุ่น 5G (8GB/128GB) อยู่ที่ CNY 2,399 (ประมาณ 10,600 บาท) และรุ่น Soft Light (8GB/256GB) ราคาเริ่มต้นที่ CNY 2,399 (ประมาณ 10,600 บาท)


หมีเด้งวิเคราะห์ : การเปิดตัว Oppo Pad Air5 พร้อมชิป Dimensity 7300-Ultra และแบตเตอรี่ 10,050mAh ในราคาราว 8,380 บาท ถือเป็น กลยุทธ์การมอบ "แท็บเล็ตประสิทธิภาพสูงในราคาที่สมเหตุสมผล" (Affordable High-Performance Tablet) Oppo มุ่งเป้าไปที่การแข่งขันในตลาดแท็บเล็ตระดับกลาง-พรีเมียมอย่างจริงจัง โดยนำเสนอจุดเด่นที่แท็บเล็ตยุคใหม่ควรมีครบ ทั้งหน้าจอ 120Hz, ชิปที่เร็วแรง, แบตเตอรี่ที่อึดทน และฟีเจอร์ AI ใน ColorOS 16 การมีตัวเลือก Soft Light Edition และรุ่น 5G ก็เป็นการขยายฐานผู้ใช้ให้กว้างขึ้น ครอบคลุมทั้งกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และผู้ที่ต้องทำงานนอกสถานที่ ทำให้ Pad Air5 เป็นคู่แข่งที่น่ากลัวในเซกเมนต์แท็บเล็ต Android ปีนี้.
source: gsmarena